การไหลเข้าของ ทุนสีเทา จากต่างประเทศในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดขึ้นผ่านเส้นทางอาชญากรรมลับอย่างเดียว แต่ผ่าน “ช่องทางสร้างความชอบธรรม” โดยผูกตัวเข้ากับโครงสร้างรัฐไทย ผ่านมูลนิธิ องค์กรการกุศล สายสัมพันธ์กับข้าราชการและนักการเมือง ความสนิทสนมกับบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อดูดซับ “ศักดิ์ศรีทางสังคมบารมีทางสังคม” จากผู้มีสถานะที่ถูกให้ความเชื่อถือในสังคม มาใช้เป็นเกราะกำบังให้ทุนที่มีที่มาคลุมเครือ เมื่อดูดซับบารมีทางสังคมมาได้มากหรือมีเงาของบารมีสูงๆ พวกเขาจะสร้างระบอบคู่ขนานอำนาจขึ้นในสังคมไทย ระบอบนี้จะมีลักษณะคือ ไม่ต้องง้อสถาบันรัฐ มีเครือข่ายข้าราชการ-นักการเมืองในมือ ใช้เงินซื้ออำนาจต่อรอง ควบคุมพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ เช่น Webพนัน, Call center, Crypto, อสังหาริมทรัพย์ ท้ายที่สุด “ทุนต่างชาติ” ใช้ร่างของรัฐไทยเป็นเพียงเครื่องมือ
ไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาอีกต่อไป ในระบบเศรษฐกิจ ทุนสีเทาแทรกตลาด ส่งผลให้ธุรกิจไทยเสียเปรียบ ในระบบการเมือง ผู้มีอำนาจบางส่วนถูก “จับเป็นตัวประกันเชิงสัญลักษณ์” ในระบบกฎหมาย ไม่สามารถบังคับใช้กับบางกลุ่ม ความเสื่อมศรัทธา ในระบบความมั่นคง อำนาจรัฐถูกท้าทายจาก “กลุ่มทุนไร้พรมแดน” ในรัฐไทย ทุนที่ผิดกฎหมาย กลายเป็นผู้กำหนดกติกาแทนรัฐ คู่ขนานกับทุนผูกขาด

