การคำนวณศักยภาพของแม่น้ำในการรับปริมาณน้ำท่า (Runoff) เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับหลายปัจจัยทางธรรมชาติและวิศวกรรม ขั้นตอนหลัก ๆ ที่ใช้ในการคำนวณนี้มักประกอบด้วยกระบวนการต่อไปนี้:
1. การกำหนดขอบเขตลุ่มน้ำ (Watershed Delineation)
- กำหนดขอบเขตของพื้นที่ลุ่มน้ำหรือพื้นที่ที่แม่น้ำสามารถรับน้ำได้
- ใช้แผนที่ภูมิประเทศหรือภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อระบุแนวแบ่งลุ่มน้ำและลักษณะของภูมิประเทศ
2. การประเมินปริมาณน้ำฝน (Rainfall Estimation)
- เก็บข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีตรวจวัดในพื้นที่หรือนำข้อมูลจากแบบจำลองสภาพอากาศ
- อาจใช้ข้อมูลน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีหรือข้อมูลน้ำฝนสูงสุดในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ฝนตกหนัก
- ในบางกรณีอาจใช้วิธีการคำนวณความน่าจะเป็นการเกิดฝน (Rainfall Probability) โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์สถิติ เช่น วิธี IDF (Intensity-Duration-Frequency) เพื่อประเมินความรุนแรงและระยะเวลาฝนตก
3. การคำนวณน้ำท่า (Runoff Calculation)
- สมการการคำนวณน้ำท่า (Runoff Equation) ที่นิยมใช้ ได้แก่:
- สมการของ SCS (Soil Conservation Service): เป็นสมการคำนวณน้ำท่าโดยพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทดิน การใช้ประโยชน์ที่ดิน และระดับความอิ่มตัวของดิน
- สมการ Rational Method: ใช้คำนวณปริมาณน้ำท่าในพื้นที่ขนาดเล็ก โดยสมการนี้คือ: Q=C⋅I⋅AQ = C \cdot I \cdot A โดยที่:
- QQ = ปริมาณน้ำท่าหรือการไหลของน้ำ (m³/s)
- CC = สัมประสิทธิ์การไหล (Runoff Coefficient) ขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นผิวดิน
- II = ความเข้มข้นของฝน (Rainfall Intensity) (mm/hr)
- AA = พื้นที่ลุ่มน้ำ (Catchment Area) (km²)
4. การประเมินศักยภาพการรองรับน้ำของแม่น้ำ (River Capacity Estimation)
- คำนวณความสามารถของแม่น้ำในการรองรับปริมาณน้ำท่า โดยใช้ สมการ Manning ที่ใช้ในการหาความเร็วการไหลของน้ำในแม่น้ำและปริมาตรน้ำที่แม่น้ำสามารถรองรับได้: V=1nR2/3S1/2V = \frac{1}{n} R^{2/3} S^{1/2} โดยที่:
- VV = ความเร็วการไหลของน้ำ (m/s)
- nn = ค่าความขรุขระของหน้าตัดแม่น้ำ (Manning’s roughness coefficient)
- RR = รัศมีไฮดรอลิก (Hydraulic radius) ซึ่งคำนวณจาก พื้นที่หน้าตัดน้ำหารด้วยความยาวของเส้นรอบแม่น้ำ
- SS = ความชันของแม่น้ำ (Slope of the river bed)
- จากความเร็วการไหลที่ได้ นำไปคำนวณปริมาตรการไหล (Flow Volume) ของแม่น้ำในหน่วย m3/sm³/s โดยคูณกับพื้นที่หน้าตัดของแม่น้ำ (Cross-sectional Area)
5. การเปรียบเทียบศักยภาพของแม่น้ำกับปริมาณน้ำท่า
- เปรียบเทียบปริมาณน้ำท่าที่คำนวณได้กับความสามารถของแม่น้ำในการรองรับน้ำ เพื่อประเมินว่าแม่น้ำสามารถรองรับน้ำท่าได้เพียงพอหรือไม่
- หากแม่น้ำไม่สามารถรองรับได้ อาจเกิดการไหลล้น (Overflow) หรือน้ำท่วม
6. การพิจารณาปัจจัยเสริม (Additional Factors)
- คำนึงถึงปัจจัยเสริม เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การกัดเซาะตะกอนในแม่น้ำ หรือการก่อสร้างโครงสร้างสาธารณูปโภคที่อาจมีผลกระทบต่อศักยภาพของแม่น้ำในการรองรับน้ำท่า
สรุปขั้นตอน
- กำหนดขอบเขตลุ่มน้ำ
- ประเมินปริมาณน้ำฝน
- คำนวณปริมาณน้ำท่า
- คำนวณศักยภาพแม่น้ำในการรองรับน้ำ
- เปรียบเทียบปริมาณน้ำท่ากับศักยภาพแม่น้ำ
- พิจารณาปัจจัยเสริม
วิธีการเหล่านี้ช่วยในการวางแผนจัดการน้ำท่วมและพัฒนาระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ