วิทยาการสาธารณภัย By ดร.วัฒกานต์ ลาภสาร

การประชุมระดับโลกเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะจัดขึ้นภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) การประชุมนี้เรียกว่าการประชุมของภาคี (COP) และจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

  1. ความถี่ : มีการประชุม COP เป็นประจำทุกปี
  2. สถานที่ : สถานที่จัดการประชุม COP จะแตกต่างกันไปในแต่ละปี โดยทั่วไปจะเป็นเจ้าภาพในประเทศต่างๆ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ การประชุม COP ที่โดดเด่นบางรายการ ได้แก่ COP21 ในปารีส (2558), COP24 ในคาโตวีตเซ, โปแลนด์ (2018) และ COP26 ในกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร (2021)
  3. ข้อตกลง : ในระหว่างการประชุมตัวแทนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะมารวมตัวกันเพื่อเจรจาและทำข้อตกลงการดำเนินการเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ข้อตกลงในแต่ละปี จากการประชุม คือ
    • ข้อตกลงปารีส ซึ่งได้รับการรับรองในการประชุม COP21 ในปี 2558 ข้อตกลงปารีสกำหนดเป้าหมายสำหรับประเทศต่างๆ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อจำกัดภาวะโลกร้อนให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม .
    • พิธีสารเกียวโต ซึ่งได้รับการรับรองในการประชุม COP22 ข้อตกลงพิธีสารเกียวโตกำหนดเป้าหมายว่าช่วงปี พ.ศ. 2559 – 2561 (ค.ศ. 2016 – 2018) รัฐภาคีอยู่ระหว่างการหารือเพื่อกำหนดรายละเอียดความร่วมมือในการดำเนินงานภายใต้ความตกลงปารีส
    • การจัดทำบัญชีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Paris Rulebook) และการร่วมกันพัฒนากระบวนการที่จะช่วยให้ประเทศต่างๆ สามารถตรวจสอบ รายงาน และเพิ่มความมุ่งมั่นในการลดก๊าซคาร์บอนในบรรยากาศ ซึ่งได้รับการรับรองในการประชุม COP23  จัดขึ้นที่เมืองบอนน์ ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 6 ถึง 17 พฤศจิกายน 2560
    • การนำ Katowice Rulebook มาใช้ (เป็นกรอบการทำงานสำหรับการดำเนินการตามข้อตกลงปารีสโดยการสร้างกฎเกณฑ์และแนวปฏิบัติทั่วไปสำหรับการรายงาน ความโปร่งใส และความรับผิดชอบในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก) ซึ่งได้รับการรับรองในการประชุม COP24  ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองคาโตวีตเซ ประเทศโปแลนด์ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 โดยมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการตามข้อตกลงปารีสเป็นหลัก
    • หัวข้อสำคัญที่มีการหารือในการประชุม COP25 ได้แก่:
      1. ตลาดคาร์บอน: การอภิปรายเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรา 6 ของข้อตกลงปารีส ซึ่งเกี่ยวข้องกับตลาดคาร์บอนระหว่างประเทศและกลไกในการลดการปล่อยก๊าซ
      2. การเงินด้านสภาพภูมิอากาศ: การเจรจาเพื่อสนับสนุนทางการเงินสำหรับประเทศกำลังพัฒนาเพื่อช่วยบรรเทาและปรับตัวให้เข้ากับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นส่วนสำคัญของการประชุม
      3. การสูญเสียและความเสียหาย: ประเทศต่างๆ หารือกันถึงวิธีจัดการกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อยู่นอกเหนือการปรับตัว ซึ่งเรียกว่า “การสูญเสียและความเสียหาย”
      4. NDCs (การมีส่วนร่วมที่กำหนดในระดับประเทศ): ประเทศต่างๆ ได้รับการสนับสนุนให้ปรับปรุง NDCs ของตน ซึ่งเป็นเป้าหมายและพันธกิจที่พวกเขาตั้งไว้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    • ปฏิญญากลาสโกว์ ซึ่งได้รับการรับรองในการประชุม COP26 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 12 พฤศจิกายน 2564 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักรแสดงความมุ่งมั่นของผู้นำที่จะร่วมกันหยุดยั้งการสูญเสียป่าไม้และความเสื่อมโทรมของที่ดินภายในปี ค.ศ. 2030 /ผู้นำจากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีพื้นที่ป่ารวมกันคิดเป็น 85% ของป่าไม้ในโลก รับปากว่าจะยุติการตัดไม้ทำลายป่าภายในปี 2030/เห็นชอบกับโครงการตัดลดการปล่อยมีเทนลง 30% ภายในปี 2030/ มากกว่า 40 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศที่ใช้ถ่านหินรายใหญ่อย่างโปแลนด์ เวียดนาม และชิลี เห็นชอบที่จะเลิกใช้ถ่านหิน/ สถาบันการเงินราว 450 แห่ง ซึ่งมีการควบคุมเงินราว 130 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,259 ล้านล้านบาท) เห็นชอบที่จะสนับสนุน “เทคโนโลยีสะอาด” อย่างพลังงานหมุนเวียน และปฏิเสธที่จะให้การสนับสนุนทางการเงินแก่อุตสาหกรรมที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
    • การเรียกร้องจัดตั้งกองทุนในการชดเชยความสูญเสียและเสียหาย ซึ่งได้รับการรับรองในการประชุม COP27 จัดขึ้น ณ เมืองชาร์มเอลชีค ประเทศอียิปต์ ระหว่างวันที่ 6-18 พฤศจิกายน 2565

การประชุม COP แต่ละครั้งมีวาระและการเจรจาเฉพาะของตนเอง แต่เป้าหมายโดยรวมคือเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับโลกและพัฒนากลยุทธ์เพื่อบรรเทาผลกระทบ ข้อตกลงที่บรรลุในการประชุมเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศ

Search