ความจริงทางคดี การรถไฟฯ ฟ้องไปตั้งนานแล้ว และฟ้องหลายศาล → ทั้งศาลฎีกา, ทั้งศาลอุทธรณ์, ทั้งศาลปกครอง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842–876/2560, คำพิพากษาศาลฎีกาที่8027/2561 และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่1112/2563 ต่างยืนยันว่า ที่ดินเขากระโดงเป็นของการรถไฟฯ
ดังนั้น ปัญหาไม่ใช่ รฟท. “ไม่ฟ้อง” แต่คือ กรมที่ดินไม่ยอมเพิกถอนโฉนด ทั้งที่ศาลพิพากษาแล้ว ยื้ออยู่นั่นแหละ ถึงขั้นที่ รฟท. ต้องไปฟ้องศาลปกครอง ว่าอธิบดีกรมที่ดิน ละเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา ธนาธรพูดกลับหัว → จากปัญหาที่แท้จริงคือ “กรมที่ดินเพิกเฉย” กลายเป็น “รฟท.ไม่ทำอะไร” การพูดแบบนี้ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่า “ยังไม่มีการพิสูจน์สิทธิ์” ทั้งที่จริง ศาลพิพากษาแล้วหลายครั้ง นี่คือการใช้ “ตรรกะย้อนแย้ง” คล้ายกับบอกว่า “ถ้าโจรขโมยจริง เจ้าของบ้านคงแจ้งตำรวจไปนานแล้ว” ทั้งที่เจ้าของบ้านแจ้งตำรวจแล้ว ศาลตัดสินแล้ว แต่ ตำรวจไม่ยอมจับโจร
การแถของธนาธรครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ “พูดผิด” แต่เป็น การบิดเบือนเจตนา ที่มีผลทางการเมือง 2 ประการ ประการที่หนึ่ง กันชนให้ฝ่ายผู้มีอำนาจปัจจุบัน – ไม่ต้องรับผิดชอบที่กรมที่ดินเพิกเฉย
ประการที่สอง เบี่ยงความรับผิดชอบไปที่ รฟท. – ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นแค่ “ข้อพิพาทหน่วยงาน” ไม่เกี่ยวกับการเมือง
ซึ่งจริง ๆ แล้ว นี่คือ คดีเชิงโครงสร้าง ที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่าง นักการเมือง – ข้าราชการ – นายทุนท้องถิ่น ในการสถาปนา “กรรมสิทธิ์เอกชนบนที่ดินรัฐ”