เป็นการมองโลกแบบ “ฉันไม่เห็น = มันไม่มี” ซึ่งเป็นความคิดที่ตื้นเขิน เพราะในความเป็นจริงแต่ละพรรคมีบทบาทและภารกิจในกระทรวงต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย การที่สลิ่มไม่เห็นบทบาทของพวกเขาในพื้นที่ข่าวเดียวกันกับพรรคเพื่อไทย ไม่ได้แปลว่าพวกเขาไม่ได้ทำงาน. เปรียบเทียบความฉลาดของนายภูมิธรรมกับ “ขงเบ้ง” และสรุปว่าพรรคเพื่อไทย “ฉลาดเท่าแต่ละก๊กไหม คำตอบคือไม่” พะน่ะ นี่ไม่ใช่การวิพากษ์นโยบาย แต่เป็นการ “ด่า” ด้วยคำเปรียบเทียบที่ไร้สาระและไม่สร้างสรรค์. การเมืองไทยไม่ใช่เกมสามก๊ก แต่เป็นการทำงานร่วมกันของหลายฝ่ายภายใต้ระบอบประชาธิปไตย. การลดทอนปัญญาของผู้อื่นด้วยการเปรียบเทียบเช่นนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึง ความคับแคบทางความคิด ของผู้วิจารณ์เอง. จุดที่น่าขันที่สุดคือ เขาเรียกร้องให้รัฐบาล “เปิดสมองให้คนอื่นมาร่วม มาช่วยกันคิด” แต่กลับใช้กรอบคิดแบบ “ฉันดีคนเดียว”แบบนิยายสามก๊ก และลดทอนศักดิ์ศรีของผู้อื่นด้วยคำพูดที่เสียดสี เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสับสนในตัวเอง และทำให้ข้อเสนอแนะของเขาไร้น้ำหนักไปโดยปริยาย.