การแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมในประเทศไทยสามารถรู้ล่วงหน้าได้ตั้งแต่ หลายชั่วโมงจนถึงหลายวัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของน้ำท่วมและความพร้อมของระบบตรวจวัด ดังนี้:
1. น้ำท่วมฉับพลัน (Flash Floods)
- น้ำท่วมประเภทนี้เกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่ขนาดเล็กและระยะเวลาสั้น เช่น ในพื้นที่ภูเขาหรือเขตเมือง
- การแจ้งเตือนล่วงหน้าใช้ระบบเรดาร์ตรวจสภาพอากาศและข้อมูลฝนจากกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งอาจแจ้งล่วงหน้าได้ 1-3 ชั่วโมง หากระบบตรวจวัดทำงานมีประสิทธิภาพ
2. น้ำท่วมจากแม่น้ำล้นตลิ่ง (River Flooding)
- เกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องในลุ่มน้ำ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มขึ้นจนล้นตลิ่ง
- การแจ้งเตือนใช้ข้อมูลจากสถานีวัดระดับน้ำและแบบจำลองคาดการณ์การไหลของน้ำ อาจแจ้งเตือนได้ 1-3 วันล่วงหน้า ขึ้นอยู่กับการไหลของน้ำในลุ่มน้ำ
3. น้ำท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่ม
- เกิดจากปริมาณน้ำฝนในเมืองหรือพื้นที่ราบต่ำที่ระบบระบายน้ำไม่สามารถจัดการได้ทัน
- การแจ้งเตือนใช้ข้อมูลจากการพยากรณ์ฝนล่วงหน้าและปริมาณน้ำฝนสะสม โดยอาจเตือนล่วงหน้า 6-12 ชั่วโมง
ระบบที่ใช้ในการแจ้งเตือน
- กรมอุตุนิยมวิทยา: แจ้งเตือนฝนตกหนักและพายุที่อาจนำไปสู่น้ำท่วม
- กรมชลประทาน: ควบคุมและติดตามระดับน้ำในแม่น้ำและเขื่อน
- ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ: ทำหน้าที่รวมข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อประกาศเตือนประชาชนผ่านสื่อและระบบส่งข้อความ
ข้อจำกัด
- ความแม่นยำขึ้นอยู่กับการบูรณาการข้อมูล เช่น ระบบเรดาร์ตรวจฝนต้องทำงานประสานกับข้อมูลจากสถานีวัดน้ำ
- ในบางพื้นที่ห่างไกลหรือชนบท การแจ้งเตือนอาจไม่เข้าถึงประชาชนทันเวลา
สรุป
ระบบเตือนภัยน้ำท่วมของไทยสามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าได้ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงถึง 3 วัน โดยต้องอาศัยการบูรณาการข้อมูลจากหลายหน่วยงานและการสื่อสารที่ครอบคลุมถึงประชาชนในพื้นที่เสี่ยง.