วิทยาการสาธารณภัย By ดร.วัฒกานต์ ลาภสาร

ความล้มเหลวเชิงยุทธศาสตร์ในการรับมือกับปริมาณน้ำฝนในเมืองรูปแบบใหม่ ที่ตกสองสามชั่วโมงเป็นน้ำรอการระบายทันที อันเป็นผลจากการวางแผนล้มเหลว” อย่างสิ้นเชิง ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
หรือ “สทนช.” ที่ควรจะทำหน้าที่เป็นมันสมองของประเทศด้านการบริหารจัดการน้ำ กลับ ละเลยประเด็นที่ควรจะเป็นหัวใจของการจัดการเมืองยุค Climate Crisis นั่นคือ “การจัดการน้ำฝนในเมืองอย่างยั่งยืน”

แม้จะใช้เวลาหลายปีและงบประมาณมหาศาลในการจัดทำ “แผนแม่บททรัพยากรน้ำ” แต่แผนที่ว่านี้กลับ ไร้แม้แต่เงาของแนวคิดการจัดการน้ำฝนในเมืองอย่างยั่งยืน ทั้งที่เมืองไทยท่วมซ้ำซากจากฝน 2 ถึง 3 ชั่วโมง เพราะ “เมืองไม่มีที่ให้น้ำอยู่” และ “โครงสร้างเดิมมันรองรับไม่ไหว”

น่าเศร้าที่แทนที่ สทนช. จะเป็นผู้ขับเคลื่อนแนวคิดใหม่ๆ อย่างการใช้ “ภูมิทัศน์ดูดซับน้ำ” “สวนสาธารณะหน่วงน้ำ” หรือ “ตึกซับน้ำ” สทนช.กลับทุ่มเททรัพยากรไปที่แนวทางเดิมๆ อย่างการ “ขุดคลอง” “สร้างอ่าง” และ “สร้างเขื่อน” ราวกับว่ายังอยู่ในโลกยุคก่อน

ในโลกยุคปัจจุบันที่สิ่งต่างๆ ผันผวนและซับซ้อนมากขึ้นทุกวัน การจัดการน้ำที่ยึดติดอยู่กับคอนกรีต จะไม่มีวันทันฝนแบบระเบิดเม็ดน้ำฝนที่ตกหนักและจบในไม่กี่ชั่วโมง

หาก สทนช. ยังคงปล่อยให้เมืองไทยท่วมซ้ำด้วยแนวทางเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา โดยไม่กล้าแม้แต่จะบรรจุการจัดการน้ำฝนในเมืองอย่างยั่งยืน ไว้ในแผนระดับชาติ หรือผลักดันกฎหมายให้เมืองปรับตัวอย่างยั่งยืน บทสรุปคงมีเพียงข้อเดียว

ไม่ว่าจะลงทุนอีกกี่หมื่นล้าน น้ำก็จะท่วมแบบเดิม และความรับผิดชอบก็จะระเหยหายไปพร้อมสายฝน

Search

@msjo.net

Twitter

https://www.youtube.com/channel/UCWQvQCFFyHZtznjgmYvVbfw