การคำนวณพื้นที่รับน้ำฝน (หรือ “Catchment Area”) เป็นการประเมินพื้นที่ที่น้ำฝนไหลลงมาสู่จุดหนึ่ง เช่น ลำน้ำ หรืออ่างเก็บน้ำ การคำนวณพื้นที่รับน้ำฝนเป็นกระบวนการสำคัญในการจัดการทรัพยากรน้ำและการป้องกันน้ำท่วม โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนดังนี้:
ขั้นตอนการคำนวณพื้นที่รับน้ำฝน:
- กำหนดขอบเขตพื้นที่รับน้ำฝน:
- ขอบเขตพื้นที่รับน้ำฝนมักจะกำหนดโดยใช้เส้นแบ่งลุ่มน้ำ (Watershed Boundary) ซึ่งเป็นเส้นที่น้ำฝนไหลลงสู่พื้นที่ดังกล่าว การกำหนดขอบเขตสามารถทำได้โดยการใช้แผนที่ภูมิศาสตร์ (Topographic Map) หรือซอฟต์แวร์วิเคราะห์ GIS
- วิเคราะห์ทิศทางการไหลของน้ำ:
- ศึกษาทิศทางการไหลของน้ำฝนบนพื้นดิน โดยตรวจสอบจากความลาดเอียงของภูมิประเทศ น้ำฝนจะไหลไปในทิศทางที่ต่ำที่สุด ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้จากแผนที่ระดับความสูง (Elevation Map)
- คำนวณพื้นที่ลุ่มน้ำ:
- เมื่อกำหนดขอบเขตได้แล้ว จึงทำการคำนวณพื้นที่ของลุ่มน้ำ สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้แผนที่หรือซอฟต์แวร์ GIS เพื่อหาพื้นที่รวม
- คำนวณปริมาณน้ำฝนที่ตกลงในพื้นที่ (หากต้องการ):
- หากต้องการคำนวณปริมาณน้ำฝนที่พื้นที่รับได้ สามารถใช้สูตร:
Q=P×AQ = P \times Aโดย:
- QQ = ปริมาณน้ำฝน (ลูกบาศก์เมตร)
- PP = ปริมาณน้ำฝนที่ตก (มิลลิเมตร หรือเมตร)
- AA = พื้นที่รับน้ำฝน (ตารางเมตร)
หากใช้หน่วยเป็นมิลลิเมตร จะต้องแปลงเป็นเมตรก่อนใช้ในสูตร
- ใช้ซอฟต์แวร์ GIS (ถ้ามี):
- หากพื้นที่ซับซ้อนหรือกว้างใหญ่ การใช้ซอฟต์แวร์ GIS จะช่วยวิเคราะห์และคำนวณได้แม่นยำยิ่งขึ้น เพราะสามารถวิเคราะห์ทั้งความสูง ทิศทางการไหลของน้ำ และปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด