จากงานเขียนของ Acemoglu และ Robinson ในหนังสือชื่อ Why Nation Fail ยืนยันว่าประเทศที่ใช้นโยบายขูดรีดและกีดกั้น ที่สร้างความได้เปรียบให้กับกลุ่มผู้ครองอำนาจและกีดกันประชาชนจากการมีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมือง
จากวรรณกรรมอันพิเศษดังกล่าวข้างต้น ทำให้มองเห็นอนาคตของความปลอดภัยจากภัยพิบัติของประชาชนจากการให้บริการของภาครัฐของไทย ที่ไทยนั้น ผลประโยชน์ของผู้ครองอำนาจกับผลประโยชน์ของประชาชนแม้จะไปทางเดียวกันแต่ผลลัพธ์ที่มุ่งหวังจะไม่เหมือนกัน
1.เวลา ผู้ครองอำนาจจะนิยมภาพลักษณ์ในช่วงสั้นๆ รวดเร็ว ทำให้เป็นเพียงการกระทำที่ฉาบฉวย
2.ลักษณะกิจกรรมที่ทำจะเป็นการตอบสนองความพึงพอใจของประชาชนจากการให้ความช่วยเหลือในขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย การดำเนินการก่อนเกิดภัยที่เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อบนทัศนคติที่มองประชาชน “โง่ จน เห็นแก่ได้ https://thestandard.co/best-vaccine-from-government-and-people-perspective/
3.มุ่งมั่นที่จะรับใช้ผู้ครองอำนาจ ให้มีภาพลักษณ์และความชอบธรรมในการมีอำนาจปกครอง ดังจะเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วงปี 2563-2564 ที่ราชการได้พยายามปกปิด ส่งเสริมการแสวงหาผลประโยชน์ของผู้ครองอำนาจ จากทั้งความต้องการหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และวัคซีนป้องกันโรคของประชาชน https://www.bbc.com/thai/thailand-57745072 https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2816010” https://www.naewna.com/entertain/589897
จากข้อเท็จจริงที่กล่าวมา เป็นการดำเนินการที่เราจะมองเห็นได้โดยตรง แต่ส่วนที่มองเห็นได้ยาก คือข้าราชการตัวพ่อตัวแม่และเหล่าบริวารผู้ร่วมขบวนการได้ทำให้การขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนาในภาพรวมให้ล้าหลังลงไปเรื่อยๆ จากการที่ดึงการลงทุนของประเทศให้มาจมอยู่กับการขยายอาณาจักรของหน่วยงานด้านสาธารณภัยต่างๆของรัฐ ทำให้ชาติขาดการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ส่งผลให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ตำ่ลงเรื่อยๆ
เรียกว่า นอกจากจะเจอความโหดร้ายจากธรรมชาติแล้ว ยังต้องเจอการไร้ความปราณีจากภาครัฐปรสิต
xxxxxxxxxxx