วันที่ 19 ธันวาคม 2568 สภาพนิเวศมวลน้ำ แม้ปริมาณฝนไม่เท่ารอบก่อน (ประมาณ 140 มม.) และในช่วง 19-21 ธันวาคม 2568 ปริมาณฝนจะลดลงร้อยละ 40 แต่ปัญหาคือ “พื้นที่รับน้ำในพื้นที่เต็มแล้ว”ทั้งอ่างเก็บน้ำและแก้มลิง สามารถรับเพิ่มได้เพียงร้อยละ 5 และโครงสร้างระบายน้ำยังฟื้นฟูไม่เต็มที่จากรอบแรก ทำให้มวลน้ำจาก อ.สะเดา ซึ่งเป็นต้นน้ำของคลองอู่ตะเภา นำ้เริ่มล้นจากคลอง ร.1 และคลองอู่ตะเภาแล้ว
กอปภ.จังหวัดสงขลาได้สั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ตัวเมืองหาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าคืนนี้ มวลนำ้จากอำเภอสะเดาจะไหลเข้าสมทบมวลน้ำที่เอ่อท่วมตั้งแต่ตีหนึ่งแล้ว
การที่รัฐกล้าสั่งอพยพคน สะท้อนว่ารัฐเริ่มเข้าใจความเปราะบาง ของโครงสร้างพื้นฐาน และความไม่แน่นอนของธรรมชาติมากขึ้น:
“แทนที่จะเชื่อมั่นในเขื่อนหรือคลองระบายน้ำ และแก้มลิง รัฐเลือกที่จะ บริหารความเสี่ยงโดยใช้ ‘เวลา’ และ ‘ชีวิตคน’ เป็นตัวตั้ง ด้วยการสั่งอพยพออกไปก่อน”
สถานการณ์คืนนี้ “น่ากังวลน้อยกว่ารอบแรกในเรื่องผลกระทบด้านการอยู่รอดในสภาวะวิกฤต แต่ “น่ากังวลเท่าเดิมในแง่ความเสียหายทางเศรษฐกิจ” และระดับน้ำท่วมจะไม่เกิน 1 เมตร
ความเสี่ยงเริ่มจากคืนวันที่ 19 ธันวาคม มวลน้ำมหาศาลกำลังเดินทางจากสะเดาผ่านคลองหอยโข่งเข้าสู่หาดใหญ่ หากน้ำในคลองอู่ตะเภาล้นตลิ่ง มวลน้ำจะทะลักเข้าเขตเศรษฐกิจชั้นใน

