พอมีเรื่องเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ออกมาแจ้งความกับตำรวจ ทปส. เอาผิดจอนนี่มือปราบกล่าวหาว่า บุกรุกที่ดินสาธารณะในความดูแลของนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย สร้างรีสอร์ทหรูหรา โฆษณาใหญ่โตเป็นที่รู้จัก อย่างกว้งขวาง ประมาณ ปี 67 ถึง ปี 68

ในพื้นที่เจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อยก็พยายามแจ้งให้จอนนี่มือปราบทราบ ถึงแนวทางการจัดสรรที่ดินของนิคม ให้จอนนี่มือปราบทราบ ตั้งแต่ปี 2565 แต่ก็มีการขัดแย้งไม่สามารถตกลงกันได้ มีการไปทำประชาคมกับชาวบ้าน มีการสร้างรีสอร์ทเรื่อยมา จนสำเร็จและเปิดให้บริการเก็บผลจากการลงทุนเป็นกอบเป็นกำเรื่อยมา

พอจอนนี่มือปราโดนแจ้งความจับข้อหาบุกรุกที่ดินสาธารณะ ก็ออกมาสื่อสารกับแฟนคลับจนลุกลามดังไปทั่วประเทศ ไม่เฉพาะในกลุ่มแฟนคลับห้าล้านหกล้านคน

การสื่อสารก็บอกกลุ่มแฟนคลับว่าโดนกลั่นแกล้งทางการเมือง อันเป็นผลมาจากเขาด่านายกแรง–เขาวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ–เขาวิพากษ์เจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้เหล่าแฟนคลับเชื่อทันทีว่า รัฐเอาคืน บางคนก็ชูให้เป็นวีรบุรุษที่ยอมเอาที่ดินพร้อมรีสอร์ทหรูของตนเองต่อสู้เพื่อชาวบ้านได้มีเอกสารสิทธิในพื้นที่นิคม

นี่คือการ “ย้อมสีความผิดจริงให้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง” การสร้างภาพ “ตัวเองคือเหยื่อ” คือเครื่องมือเรียกพลังมวลชน ถูกใช้ซ้ำ ๆ จนอาจจะทำให้คนไทยสับสนว่าใครกันแน่คือ “เหยื่อ” แท้จริงเหยื่อที่แท้จริงคือ “สมบัติสาธารณะ” ที่โดนคนดังบุกรุก!

เหล่าแฟนคลับจอนนี่มือปราบห้าล้านหกล้านก็คงจะเชื่อว่าเขาเป็นเหยื่อ และจะชูเป็นวีรบุรุษกันต่อไป