เมื่อพรรคก้าวไกลกล่าวว่า “ถ้าพิธาเป็นนายก ประเทศจะไม่เป็นแบบนี้”
เสียงโวยวายจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมจึงไม่ใช่แค่ “การโกรธ”
แต่คือ “อาการช็อกทางอัตลักษณ์”
เพราะประโยคสั้นๆ นี้ เป็น ระเบิดเวลา 3 ลูก ที่ปลิดชีพความชอบธรรมของระบอบเก่า:
ลูกที่ 1: “แบบนี้” คือหมัดตรงหน้าของประวัติศาสตร์
ก้าวไกลประกาศว่า “แบบนี้” – เศรษฐกิจทรุด, ความเหลื่อมล้ำบาน, การทุจริตไร้การแก้ –
ไม่ใช่ “ชะตากรรม” หรือ “กรรมของชาติ”
แต่คือ “ผลผลิตจากพิธีกรรมอำนาจ” ของคนกลุ่มเดิม
ที่บูชา “ความมั่นคง” มากกว่า “ความเป็นธรรม”
ที่เชื่อว่า “ระเบียบ” สำคัญกว่า “คุณภาพชีวิต”
ลูกที่ 2: การประกาศศักดา “ผู้พิทักษ์ใหม่”
วาทกรรมนี้สร้าง “พิธีกรรมการเปลี่ยนผ่าน”
จาก “ผู้พิทักษ์เก่า” ที่อุ้มชูชาติแต่ชาติกลับอัปลักษณ์
สู่ “ผู้พิทักษ์ใหม่” ที่สัญญาจะชุบชีวิตชาติ
มันคือการขโมยบทบาท “กู้ชาติ” ไปจากมือคนที่เคยคิดว่าตนเป็นเจ้าของบทบาทนี้มาตลอด
ลูกที่ 3: การปล้น “ประวัติศาสตร์” และ “ความดีความชอบ”
ฝ่ายอนุรักษ์นิยมสะสมทุนทางวัฒนธรรมจากการเป็น “ผู้เสียสละ”
“เรารักษาชาติมา”
“เราทำเพื่อความสงบ”
“เราคือกำแพงสุดท้าย”
แต่คำว่า “ประเทศจะไม่เป็นแบบนี้” กำลังบอกว่า:
“สิ่งที่คุณเรียกการเสียสละ คือการบ่มเพาะความล้มเหลว”
“สิ่งที่คุณเรียกการรักษาชาติ คือการทำให้ชาติป่วย”
“กำแพงของคุณ ไม่ใช่กำแพงป้องกัน แต่มันคือคุก”
นี่จึงไม่ใช่แค่การวิจารณ์นโยบาย
แต่คือ “การปล้นสะดมทางสัญลักษณ์”
การแย่งชิงตำแหน่ง “ผู้กอบกู้ชาติ”
การทลายตำนาน “เราดูแลชาติได้ดีที่สุด”
และการตั้งคำถามว่า: “ชาติที่คุณโอ้อวดว่าพิทักษ์ไว้ มันคือชาติของใคร? ชาติแบบไหน? และเพื่อใคร?”
ฝ่ายอนุรักษ์นิยมโกรธ ไม่ใช่เพราะ “ถูกวิจารณ์”
แต่เพราะ “ถูกปลดออกจากบัลลังก์ทางศีลธรรม”
ที่พวกเขาครองมาทั้งชีวิต

