การเปลี่ยนผ่านของกัมพูชา
จากการรบด้วยอาวุธเบา ไปสู่การครอบครองอาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำสูง
ไม่ใช่เพียงการ “ซื้ออาวุธใหม่”
แต่คือการส่งสัญญาณทางการเมืองว่าความขัดแย้งกำลังถูกยกระดับ
คำถามสำคัญจึงไม่ใช่ว่าอาวุธนั้นยิงไกลแค่ไหน
แต่คือ ถูกจัดหามาเมื่อไร
• หากจัดหามาก่อนการปะทะ
หมายถึงการเตรียมความพร้อมเชิงยุทธศาสตร์ระยะยาว
และการยอมรับล่วงหน้าว่าความขัดแย้งกับไทยอาจยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น
• หากจัดหาหลังการปะทะ
สะท้อนการตอบโต้เชิงฉุกเฉิน เพื่อชดเชยความเสียเปรียบในสนามรบ
และเป็นสัญญาณว่าการเมืองภายในกำลังกดดันให้ “ต้องแสดงพลัง”
ในทั้งสองกรณี อาวุธไม่ใช่ต้นเหตุของสงคราม
แต่เป็น ผลผลิตของโครงสร้างการเมืองและเศรษฐกิจ
ที่ยังไม่สามารถหาทางออกด้วยการเจรจา
ตราบใดที่ผู้นำทั้งสองฝั่งยังใช้ความขัดแย้ง
เพื่อบริหารอำนาจภายในประเทศของตน
การปะทะย่อมไม่จบลงด้วยชัยชนะทางทหาร
แต่จะยืดเยื้อในฐานะ “สงครามการเมืองที่มีปืนประกอบฉาก”

