บทเรียนที่ถูกละเลยเพิกเฉย
ย้อนประวัติศาสตร์ไปสัก 20 ปี สถานการณ์อุทกภัย นำ้ป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในประเทศไทยสร้างความเสียหายให้แก่ชุมชนหมู่บ้านเกิดการสูญเสียบ้านเรือนและชีวิตคราวเดียวกันเป็นการตายหมู่คราวเดียวกัน หลายๆ ครั้ง เช่น
- ปี 2531 โคลนถล่มที่ ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ทะเลโคลน รวมทั้งท่อนไม้ยางพารา และต้นไม้บนเทือกเขาหลวง ทับถม ต.กะทูน ทั้งตำบล พื้นที่กว่า 6,000 ไร่ บ้านเรือน 1,500 หลัง ถูกโคลนทับถมหนาร่วม 2 เมตร มีผู้เสียชีวิตและสูญหายร่วม 700 คน https://www.posttoday.com/social/local/400980
- ปี 2544 11 ส.ค. 2544 เวลา 03.00 น. หลังจากฝนตกอย่างหนักราวกับฟ้ารั่ว ที่บ้านน้ำก้อ ตำบลน้ำก้อ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เกิดกระแสน้ำป่าอันเชี่ยวกราก พัดเอาบ้านที่อยู่ในรัศมีทางน้ำของชาวบ้านที่กำลังนอนหลับใหล พัดหายไปทั้งหลัง ทั้งหมู่บ้านราบเป็นหน้ากลอง ด้วยฤทธิ์น้ำป่าที่หอบเอามาทั้งดินโคลน และซากต้นไม้ กิ่งไม้ อย่างถอนรากถอนโคน เช้าวันรุ่งขึ้นทางการพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยเข้าเคลียร์พื้นที่ สิ่งที่พบเห็นล้วนเป็นภาพแห่งความสลดหดหู่ เพราะมีแต่ซากปรักหักพัง และถูกทับด้วยต้นไม้ กิ่งไม้ และดินโคลน และเต็มไปด้วยศพ นับรวมเป็นจำนวนมากมายถึง 136 ศพ และมีผู้บาดเจ็บ 109 คน สูญหาย 4 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 188 หลัง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 441 หลัง https://www.komchadluek.net/news/today-in-history/291437
- 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 น้ำป่าทะลักจากอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย ถล่มใส่หลายหมู่บ้านใน อ. วังชิ้น จ. แพร่ มีผู้เสียชีวิต 23 คน สูญหาย 16 ราย บาดเจ็บ 58 ราย
- 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลให้มีดินโคลนถล่มในพื้นที่ อ. ลับแล จ. อุตรดิตถ์ เสียชีวิต 87 คน สูญหาย 29 คน
บิดเบือนเพิกเฉยต่อประวัติศาสตร์เพื่อสร้างอนุสาวรีย์มรณะให้กับประชาชน
จากวันนั้นถึงวันนี้ ส่วนราชการต่างๆ ได้เข้าร่วมป้องกัน นับรวมเงินงบประมาณนับหมื่นล้านที่ใช้ไป ด้วยการติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำฝน เครื่องไซเรนแจ้งเตือนภัย ระบบโทรมาตรในลุ่มน้ำ
แต่สิ่งที่ทิ้งทุ่นหายนะให้กับประชาชน คือ
“เครื่องวัดปริมาณน้ำฝนที่ติดตั้งไปแล้ว ร้อยละ 18 ยังอ่านค่าด้วยคน อ่านวันละ 1 ครั้ง ในเวลา 07.00 น. แต่ไม่มีการป้องกันช่องโหว่ 2 ประการ คือ 1) ในกรณีฝนไม่ได้ตกในหมู่บ้าน 2)ปริมาณที่ตกเพียง 2 ชั่วโมงก็จะสามารถเกิดน้ำป่าไหลหลากที่สร้างความสูญเสียได้ ดังนั้น การใช้คนไปอ่านวันละ 1 ครั้ง เวลา 07.00 น. ในบางครั้งจะไม่ทันการณ์”
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ยังมีเครื่องวัดปริมาณนำ้ฝนทั้งหมด 2,800 เครื่อง อ่านด้วยคน เครื่องไซเรน จำนวน 2,800 เครื่อง ต้องใช้คนหมุนด้วยมือให้เกิดเสียงแจ้งเตือน (ไซเรนมือหมุนแบบพกพา) แต่ทั้งหมดล้วนติดตั้งอยู่ในชุมชนที่ความน่าจะเป็นการเกิดอุทกภัย ร้อยละ 73 มาจากพื้นที่นอกชุมชน
กรมทรัพยากรน้ำ ทั้งหมดเป็นเป็นเครื่องวัดปริมาณน้ำฝนอัตโนมัติ อ่านค่าและแจ้งเตือนอัตโนมัติด้วยสีและเสียง แต่ทั้งหมดล้วนติดตั้งอยู่ในชุมชนที่ความน่าจะเป็นการเกิดอุทกภัย ร้อยละ 73 มาจากพื้นที่นอกชุมชน https://news.dwr.go.th/uploads/userfiles/files/service/EWS_manual.pdf
กรมชลประทาน จะติดตั้งระบบโทรมาตรในแม่น้ำ ลำคลองที่รับผิดชอบ มีเครื่องวัดระดับน้ำอัตโนมัติและมีการแจ้งเตือนทันทีให้พื้นที่ได้ทราบในบางจุดเท่านั้น
กรมทรัพยากรธรณี กระบอกวัดปริมาณน้ำฝนอ่านด้วยคน เครื่องเปล่งสัญญาณเตือนภัย (ไซเรนมือหมุนแบบพกพา) และวิทยุสื่อสาร เป็นต้น พร้อมทั้งเสนอความคิดเห็นในเรื่องการเฝ้าระวังการแจ้งปริมาณน้ำฝน และแจ้งเตือนพิบัติภัยผ่านทางสังคมออนไลน์ (Line application)
———–xxxxxx————–