เพียงเพราะตารางนิ้วเดียว ก็พร้อมที่จะสูญเสียอธิปไตยภายในประเทศ พร้อมที่จะสูญเสียความเป็นมนุษย์ในประเทศตนเอง
ยอมก้มหัวให้กับรัฐบาลประยุทธ์ที่ใช้ประชาชนเป็นฐานภาษีในการเลี้ยงระบบอุปถัมภ์ของตัวเอง
หนึ่งยอมก้มหัวให้กับ ระบบรัฐราชการรวมศูนย์แบบไทย
-
ใช้นโยบาย ขึ้นเงินเดือน พักหนี้ เพิ่มสวัสดิการ ให้กลุ่มข้าราชการและองค์กรรัฐวิสาหกิจ
-
เปลี่ยน “แรงจูงใจในการรับราชการ” จาก “ความเสียสละ” เป็น “ผลตอบแทนและอำนาจ”
-
ผูกข้าราชการไว้เป็นฐานอำนาจทางการเมือง → ข้าราชการไม่กล้าวิจารณ์นาย
→ ส่งผลให้ ขาดข้าราชการนักคิด เหลือแต่ข้าราชการนักเลีย
สองยอมก้มหัวให้กับ การกู้เงินมาเลี้ยงระบบอุปถมภ์ของตนเอง แต่ประชาชนต้องเป็นคนใช้หนี้
-
โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เบี้ยวบ่อย เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง ฯลฯ
มีสัดส่วนที่ไหลเข้าสู่ภาคราชการและกลุ่มทุนผูกขาดมากกว่าประชาชนทั่วไป -
หนี้สาธารณะพุ่งทะลุ 10 ล้านล้านบาท แต่โครงการช่วยเหลือเกษตรกรหรือแรงงานนอกระบบกลับเบาบาง
-
โครงสร้างภาษีไม่ได้เก็บจากกลุ่มทุน-ราชการเท่าที่ควร แต่กลับเพิ่มภาระทางอ้อมแก่ประชาชน เช่น ภาษีน้ำมัน, ภาษีสินค้า
สามยอมก้มหัวให้กับรัฐราชการยักษ์มาร ที่ทั้งขยายอาณาจักร – ขยายอัตรากำลัง – ขยายงบ
-
เพิ่มหน่วยงานใหม่ แต่ไม่ได้ลดหน่วยงานเก่าที่ซ้ำซ้อน บางหน่วยก็ตั้งขึ้นมาซ้ำซ้อน
-
ไม่ยอม “รีดีไซน์ภารกิจ” ตามยุคสมัย ยังใช้ระบบแบบอนุมัติ-สั่งการ-ควบคุม ทำให้ระบบราชการกลายเป็น คอขวดของนโยบายสาธารณะ
-
งบฯทหาร – ตำรวจ – สื่อสารความมั่นคง เพิ่มขึ้นทุกปี แม้ในยุคที่ประชาชนไม่มีข้าวกินก็ยังมีงบซื้อเรือดำน้ำ-จัดหาอาวุธ