วิทยาการสาธารณภัย By ดร.วัฒกานต์ ลาภสาร

มีข้อสังเกตว่าสังคมฝรั่งกับสังคมไทยมองชีวิตมนุษย์แตกต่างกัน แม้ทั้งสังคมฝรั่ง และสังคมไทย ยกย่องบูชาคนดี คนทำประโยชน์แก่สังคมประเทศชาติ แต่ยกย่องต่างกัน คือ

  1. ไทยยกย่องให้คล้ายเทวดา หรือผู้บริสุทธิ์  บุคคลสาธารณะ หรือคนเก่งคนดี ถูกยกย่องให้เป็นคล้ายเทวดา และใครจะมาลบหลู่ไม่ได้ แม้สิ่งนั้นจะเป็นเรื่องจริง สาวกจะออกมาปกป้อง โดยบางครั้งก่อความรุนแรง สังคมของเราจึงเป็นสังคมปกปิดเรื่องราวผิดศีลธรรมของบุคคลสาธารณะ   ทำให้บุคคลสาธารณะปลอดจากการควบคุมกำกับเชิงสังคม   และประพฤติผิดได้ง่ายและซ้ำๆ   ที่สำคัญคือก่อความเสื่อมแก่ผู้นั้นเอง  ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ ห้ามเอาด้านลบหรือส่วนเสียมาเปิดเผย
  2.  แต่ฝรั่งเขายกย่องในฐานะสามัญชนหรือคนธรรมดา ที่ยังมีกิเลสหรือยังมีข้อตำหนิในบางเรื่อง   เช่น การเผยแพร่อย่างกว้างขวางว่า  โธมัส เจฟเฟอร์สัน มีทาสผิวดำเป็นนางบำเรอ และมีลูกด้วยกันออกเผยแพร่เป็นที่รู้กันทั่วไป รวมทั้งในวิกิพีเดีย  /นายทหารหญิงพนักงานขับรถให้แก่นายพล ไอเซนฮาวร์ สมัยเป็นผู้บัญชาการทหารพันธมิตรภาคพื้นยุโรป ในสงครามโลกครั้งที่ ๒   เปิดโปงชีวิตลับทางเพศระหว่างตนกับ ไอเซนฮาวร์   คนอเมริกันเขาก็เฉยๆ ไม่โวยวายว่าเป็นการลบหลู่วีรบุรุษของชาติ  เขาแยกแยะระหว่างการยกย่องให้เกียรติ แสดงความกตัญญู   ออกจากเรื่องราวของชีวิตจริงในฐานะเป็นมนุษย์ตามธรรมชาติ   คนในประวัติศาสตร์แม้จะมีตำหนิในบางเรื่องปรากฎขึ้นภายหลัง เขาก็ยังยกย่อง และคนที่ทำให้ความจริงเรื่องตำหนินั้นก็ไม่โดนประชาทัณฑ์

แล้วเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องอย่างไรกับภัยพิบัติหรือสาธารณภัย

ด้วยลักษณะสังคมไทยดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดอภิสิทธิ์ชนขึ้นมา ประกอบสร้างปัจจัยเชิงสาเหตุของภัยพิบัติในหลายๆ ลักษณะ เช่น

  1. การถูกละเว้นการลงโทษเมื่อฝ่าฝืนกฎหมายการควบคุมมลพิษ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่างๆ
  2. สร้างนโยบายที่เอื้อต่อการกอบโกยทรัพย์สินของตนและพวกพ้อง โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบด้านภัยพิบัติ
  3. สร้างอิทธิพลต่อการปิดบังอำพรางในการกระทำตามข้อ 1 และข้อ 2  ด้วยการปิดกั้นกำจัดการสื่อสาร ไม่สนับสนุนการศึกษา การวิพากษฺวิจารณ์ ทำให้สังคมมืดมนอยู่กับปัญหาภัยพิบัติ