คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change : IPCC) ได้กำหนดศักยภาพของก๊าซที่จะทำให้เกิดภาวะโลกร้อนนั้นวัดจากศักยภาพของภาวะโลกร้อน (GWP) GWP คือการวัดปริมาณความร้อนที่ก๊าซเรือนกระจกกักเก็บในชั้นบรรยากาศในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งโดยปกติคือ 100 ปี เทียบกับความสามารถในการกักความร้อนของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งกำหนด GWP ไว้ที่ 1
GWP ใช้เพื่อเปรียบเทียบศักยภาพในการทำให้ร้อนของก๊าซต่างๆ แต่ไม่ได้สะท้อนถึงปริมาณที่แท้จริงของก๊าซแต่ละชนิดในชั้นบรรยากาศ ตัวอย่างเช่น มีเทนมีปริมาณในชั้นบรรยากาศน้อยกว่าคาร์บอนไดออกไซด์มาก แต่มี GWP ที่สูงกว่า ทำให้มีเทนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
ค่า GWP ในช่วง 20 ปีและ 100 ปี เมื่อเทียบกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2):
- มีเทน (CH4):
- GWP (20 ปี): ประมาณ 84-87 เท่าของ CO2
- GWP (100 ปี): ประมาณ 28-36 เท่าของ CO2
- ไนตรัสออกไซด์ (N2O):
- GWP (20 ปี): ประมาณ 264-298 เท่าของ CO2
- GWP (100 ปี): ประมาณ 298-310 เท่าของ CO2
- ไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HFC) เช่น HFC-134a:
- GWP (20 ปี): สูงกว่า CO2 มาก โดยสูงกว่าหลายร้อยถึงหลายพันเท่า
- GWP (100 ปี): สูงกว่า CO2 มากเช่นกัน โดยมีค่าที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสารประกอบ HFC ที่เฉพาะเจาะจง
โดยสรุป ก๊าซเรือนกระจกต่างๆ มีศักยภาพในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อนที่แตกต่างกันเมื่อเทียบกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยก๊าซเรือนกระจกบางชนิดมีศักยภาพมากกว่ามากในแง่ของความสามารถในการกักเก็บความร้อน มีเทนและไนตรัสออกไซด์เป็นก๊าซสองชนิดที่มีส่วนสำคัญต่อภาวะโลกร้อนเนื่องจากมี GWP สูงกว่า