การปิดบังและหลอกลวงประชาชนไม่ให้รู้ว่าตนเองกำลังถูกดึงเข้าสู่ แชร์ลูกโซ่ มักใช้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนและหลอกลวง เพื่อทำให้เหยื่อเชื่อว่าตนกำลังมีส่วนร่วมในธุรกิจที่ถูกต้อง โดยมีลักษณะดังต่อไปนี้:
1. บิดเบือนลักษณะธุรกิจ
ผู้ดำเนินการมัก แอบอ้าง ว่าเป็นธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ธุรกิจเครือข่าย (MLM) หรือการลงทุนที่มีโอกาสทำกำไรมาก ซึ่งในความเป็นจริง ไม่มีการขายสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าจริง เป็นเพียงการหาสมาชิกใหม่เพื่อให้เกิดกระแสเงินทุนจากล่างขึ้นบนเท่านั้น ผู้ชักชวนอาจไม่บอกอย่างชัดเจนเกี่ยวกับโครงสร้างชั้นหรือการจ่ายผลตอบแทนที่ขึ้นอยู่กับการหาสมาชิกใหม่เป็นหลัก
2. โฆษณาผลประโยชน์เกินจริง
มักจะมีการนำเสนอว่า จะได้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาสั้น หรือไม่ต้องทำอะไรก็สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล เช่น การโฆษณาว่าจะรวยเร็วได้จากการลงทุนเพียงเล็กน้อย ซึ่ง ไม่ได้บอกข้อเท็จจริง ว่ารายได้เหล่านี้มาจากการดึงสมาชิกใหม่เข้าร่วมมากกว่า อาจใช้ หลักฐานปลอม เช่น ใบเสร็จที่แสดงรายได้สูงเกินจริงหรือเรื่องราวความสำเร็จที่ถูกปั้นขึ้นมาเพื่อดึงดูดความสนใจ
3. ให้ความสำคัญกับการชักชวนมากกว่าการขายสินค้า
ธุรกิจแชร์ลูกโซ่มักจะเน้นการหาสมาชิกใหม่มากกว่าการขายสินค้าหรือบริการจริง ตัวแทนหรือผู้ที่ชักชวนจะได้รับ ค่าคอมมิชชั่นจากการแนะนำคนใหม่เข้ามา แทนที่จะได้รายได้จากการขายสินค้าหรือบริการ สินค้าที่นำมาเป็นข้ออ้างในการดำเนินธุรกิจอาจไม่มีคุณภาพ หรือมีราคาแพงเกินจริงเพื่อให้ครอบคลุมการจ่ายผลตอบแทน
4. ปกปิดโครงสร้างการจ่ายผลตอบแทน
โครงสร้างการจ่ายผลตอบแทนในแชร์ลูกโซ่จะขึ้นอยู่กับการดึงดูดสมาชิกใหม่เข้ามา แต่ธุรกิจจะพยายามปกปิดไม่ให้สมาชิกทราบว่า รายได้ส่วนใหญ่มาจากการหาสมาชิกใหม่ ไม่ใช่การขายสินค้าหรือบริการจริง จะมีการพูดถึงโอกาสในการเติบโตของรายได้มากกว่าการอธิบายโครงสร้างการจ่ายผลตอบแทนอย่างชัดเจน
5. ใช้ความกดดันและสร้างแรงจูงใจ
ผู้ที่ชักชวนจะใช้วิธีการ สร้างแรงจูงใจที่ผิดปกติ เช่น การจัดสัมมนา การชักชวนเข้าร่วมทีมที่ดูหรูหรา หรือการสร้างภาพลวงตาว่าผู้เข้าร่วมมีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อดึงดูดให้คนมาร่วมลงทุน นอกจากนี้ ยังมีการ กดดันทางสังคม เช่น การบอกว่าโอกาสนี้จะหมดเร็ว หรือการให้สมัครเป็นสมาชิกโดยเร็วเพื่อไม่ให้พลาดโอกาส ซึ่งทำให้คนไม่มีเวลาคิดอย่างรอบคอบ
6. การปกปิดความเสี่ยง
ผู้ชักชวนมักไม่บอกข้อเท็จจริงที่ว่า ธุรกิจแชร์ลูกโซ่จะล้มเหลวเมื่อไม่มีสมาชิกใหม่เข้ามา ซึ่งทำให้ระบบทั้งหมดพังทลายลง และผู้ที่เข้ามาทีหลังจะเสียเงินทุนโดยไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ ไม่มีการเตือนถึงความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินลงทุน หรือการเตือนเกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมายของรูปแบบธุรกิจ
7. อ้างความน่าเชื่อถือของผู้มีชื่อเสียงหรือองค์กร
แชร์ลูกโซ่บางรูปแบบจะอ้างว่าได้รับการสนับสนุนจากบุคคลหรือองค์กรที่มีชื่อเสียง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ ทำให้คนหลงเชื่อว่าเป็นธุรกิจที่ปลอดภัย
ใช้คำพูดหรือการสื่อสารที่อ้างว่าธุรกิจนี้ถูกกฎหมายและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
สรุป:
ธุรกิจแชร์ลูกโซ่มีลักษณะการปิดบังและหลอกลวงให้ประชาชนเชื่อว่ากำลังลงทุนในธุรกิจที่ถูกต้อง แต่แท้จริงแล้วเป็นการชักชวนให้ลงทุนเพื่อดึงสมาชิกใหม่เข้ามา ซึ่งไม่มีการขายสินค้าหรือบริการจริง และรายได้หลักมาจากการหาสมาชิกใหม่ การปกปิดลักษณะเช่นนี้ทำให้ผู้เข้าร่วมไม่รู้ว่าตนเองกำลังถูกหลอกลวง