“การสอนลูกหลานของมนุษย์ให้มีศักยภาพในการพัฒนาวิวัฒนาการให้สูงขึ้น” ต่างจากการ “ฝึกให้เชื่อฟังคำสั่ง” อย่างมีนัยสำคัญ “เพราะมันไม่ใช่การสร้างมนุษย์ที่เชื่องหรือเก่งท่องจำ” “แต่คือการ ปลุกและผลักศักยภาพของความเป็นมนุษย์ให้ไปไกลกว่าเงื่อนไขเดิมของสังคม” — “ไม่ใช่เพียงเพื่ออยู่รอด แต่เพื่อ สร้าง-เปลี่ยน-พลิกโลก”
“การสอนเพื่อวิวัฒน์แบบที่หนึ่ง คือ” ต้องฝึกให้รู้จักคิดอย่างมีวิจารณญาณ ไม่ใช่แค่ “เชื่อครู” หรือ “ทำตามตำรา” แต่ต้องกล้าถามว่า “ทำไม?” และ “แล้วถ้าไม่ใช่แบบนี้ล่ะ?” “ฝึกแยกแยะระหว่างข้อมูล/หลักฐาน/ความเชื่อ/อคติ” “ใช้เหตุผลมากกว่าความกลัว/อารมณ์ชั่ววูบ/ความเชื่อมืดบอด”
“การสอนเพื่อวิวัฒน์แบบที่สอง คือ” “ต้องปลูกฝังจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์” “เปิดโอกาสให้เด็ก ฝัน ฝึก ทดลอง ผิด แล้วลองใหม่” “สร้างพื้นที่ที่ไม่มีคำตอบเดียว” หรือ “ครูถูกเสมอ” “กระตุ้นให้เด็กเชื่อว่าเขาสามารถสร้างสิ่งใหม่ได้” “มนุษย์วิวัฒน์ขึ้นได้เพราะไม่หยุดที่ทำซ้ำ” “แต่กล้าคิดต่าง สร้างใหม่ ทำให้โลกไม่เหมือนเดิม”
“การสอนเพื่อวิวัฒน์แบบที่สาม คือ” “สร้างจิตสำนึกทางจริยธรรมและการเปลี่ยนแปลงสังคม” “ปลูกฝังความเข้าใจใน สิทธิ เสรีภาพ ความยุติธรรม” “เด็กที่รู้จักคุณค่าของตัวเองและผู้อื่น” จะไม่ใช่แค่ “แรงงานในระบบ”
แต่จะเป็น “พลเมืองของโลกที่กล้าเปลี่ยนสิ่งที่ไม่เป็นธรรม”
เป้าหมายของการ “สอนให้มนุษย์วิวัฒน์” จึงไม่ใช่เพื่อเป็น “คนดี” ที่ไม่ตั้งคำถาม หรือเพื่อเป็นฟันเฟืองที่เชื่อฟัง
แต่คือ: เพื่อสร้างมนุษย์ที่ “คิดได้” “สร้างได้” “รับผิดชอบได้” และสามารถพัฒนาโลกไปสู่สังคมที่ดีขึ้นได้จริง