นักการเมืองไทยในช่วงหลังรัฐประหาร สมัย คสช. มีส่วนเกี่ยวข้องเชิงอ้อมกับปัญหาชายแดนบ้านหนองจาน และชายแดนช่องอานม้า อย่างน้อยในแง่ที่ ไม่ได้สั่งการให้ทหารดำเนินการยึดคืนหรือปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มที่ พวกเขาเลือกใช้ ดีลบูรพา หรือมาตรการ “รอเจรจา” เป็นข้ออ้างในการละเว้น ไม่ดำเนินการทางทหารอย่างจริงจัง การละเลยนี้ทำให้ชาวเขมรสามารถตั้งถิ่นฐานและสร้างโครงสร้างถาวรในดินแดนไทยได้ รวมถึงเปิดโอกาสให้มีการค้าของเถื่อนและกิจกรรมที่เป็นผลประโยชน์ส่วนตัวในพื้นที่ชายแดน ถึงแม้ไม่ได้มีหลักฐานว่าเป็น “ข้อตกลงทางลับ” เพื่อให้ไทยเสียอธิปไตยโดยตรง แต่ การละเว้นหน้าที่ของนักการเมือง–บางส่วนของทหาร ทำให้ปัญหาเกิดและดำรงอยู่ ซึ่งเท่ากับมีส่วนรับผิดชอบต่อสถานการณ์ชายแดนที่ถูกละเมิดนั่นเอง ถึงแม้ จะยังไม่เข้าข่ายความผิดในความหมายทางกฎหมายโดยชัดเจนว่า มีเจตนาชัดเจนที่จะ ส่งผลประโยชน์แก่ชาติอื่นและทำลายผลประโยชน์ของชาติเอง แต่ก็ได้แต่ด่าว่า “ละเว้นอธิปไตย” เพราะปล่อยให้สิทธิ์ของรัฐถูกละเมิดโดยไม่ดำเนินการ “สมยอมอ้อม ๆ” – เพราะไม่ได้ยินยอมอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็ไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ “ขายหน้าอธิปไตย” – เพราะเน้นการสร้างความอับอายให้รัฐในสายตาชาวบ้านและประชาคมระหว่างประเทศ