วิทยาการสาธารณภัย By ดร.วัฒกานต์ ลาภสาร

คำขวัญวันเด็กฟังดูทันสมัย เป็นมิตรกับโลก และดูมีความหวัง
แต่เมื่อวางลงบน การบริหารประเทศจริง มันกลับกลายเป็นคำขวัญที่
ใช้เยาวชนเป็นถังขยะทางศีลธรรมของผู้ใหญ่
รัฐบาลขอให้เด็ก “รักชาติ”
ทั้งที่ ผู้ใหญ่กำลังทำลายเงื่อนไขพื้นฐานของการมีชาติให้รัก

1. รักชาติ…แต่ชาติถูกขายล่วงหน้า
เด็กถูกสอนให้รักชาติ
ในขณะที่รัฐบาล
อนุมัติโครงการทำลายสิ่งแวดล้อม
สร้างหนี้สาธารณะมหาศาล
ให้สัมปทานทรัพยากรแบบไม่รับผิดชอบ
ผูกอนาคตประเทศกับทุนใหญ่และผลประโยชน์ระยะสั้น
นี่ไม่ใช่การสร้างชาติ
แต่มันคือ การขายชาติแบบผ่อนส่ง แล้วให้เด็กเป็นคนจ่ายดอก

2. ใส่ใจโลก…แต่ไม่ใส่ใจโครงสร้างที่ทำลายโลก
คำว่า “ใส่ใจโลก” ในเวอร์ชันรัฐบาล
ไม่ใช่การ
ปรับโครงสร้างพลังงาน
ลดการผูกขาดทรัพยากร
ปฏิรูปการจัดการสิ่งแวดล้อม
แต่เป็นการ
โยนความรู้สึกผิดให้เยาวชน
แล้วบอกว่า “โลกพังเพราะพวกเธอใช้พลาสติก”
ในขณะที่
การตัดสินใจที่ทำลายโลกจริง ๆ มาจากโต๊ะประชุมของผู้ใหญ่

3. การรักชาติที่ถูกนิยามใหม่ = เชื่อฟัง + เงียบ
รัฐบาลไม่ได้ต้องการ “เยาวชนรักชาติ”
รัฐบาลต้องการ
เยาวชนที่ไม่ตั้งคำถาม
เมื่อเด็กและเยาวชน
ชี้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
ตั้งคำถามต่อรัฐ
วิจารณ์นโยบายที่ทำลายอนาคต
สิ่งที่พวกเขาได้รับไม่ใช่คำตอบ
แต่คือคำสั่งให้
“เข้าใจผู้ใหญ่”
“อย่าทำให้ประเทศแตกแยก”
นี่ไม่ใช่การปลูกฝังความรักชาติ
แต่มันคือ การฝึกให้ยอมรับความล้มเหลวของผู้ใหญ่โดยไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง

4. รัฐบาลไม่สอนความรับผิดชอบ แต่สอนการรับกรรม
ความย้อนแย้งที่สุดคือ
รัฐบาลพูดถึง “ความรับผิดชอบต่อโลก”
แต่ไม่เคยพูดถึง
ความรับผิดชอบของรัฐต่ออนาคต
เด็กจึงถูกสอนให้
ประหยัดไฟ
แยกขยะ
เป็นคนดีของสังคม
ในขณะที่รัฐ
ไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจเชิงโครงสร้าง
ไม่รับผิดชอบต่อหนี้
ไม่รับผิดชอบต่อระบบที่กดทับพวกเขา
นี่คือการ
เปลี่ยน “ความรับผิดชอบของอำนาจ”
ให้กลายเป็น “ภาระทางศีลธรรมของผู้ไร้อำนาจ”
คำขวัญ
“รักชาติไทย ใส่ใจโลก”
ในมือรัฐบาลหนูอนุทิน ไม่ได้หมายถึงอนาคตที่ดีขึ้น
แต่มันหมายถึง
“เราจะบริหารประเทศแบบไม่รับผิดชอบ
แล้วขอให้เด็กช่วยรัก ช่วยแคร์ ช่วยแบกแทน”
นี่ไม่ใช่การปลูกฝังพลเมือง
แต่มันคือ การสร้างผู้รับมรดกซากปรักหักพัง

Search

https://www.tiktok.com/@msjo.net

Twitter

https://www.youtube.com/channel/UCWQvQCFFyHZtznjgmYvVbfw