วิทยาการสาธารณภัย By ดร.วัฒกานต์ ลาภสาร

การปะทะที่ยืดเยื้อ ในปลายปี 2568 กำลังเดินมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ จาก “การหยั่งเชิง” ในรอบแรก สู่ยุทธการ “ปักปันเขตแดนด้วยกำลัง” ในรอบที่สองที่ดุเดือดกว่าเดิม บทสรุปของสงครามครั้งนี้อาจไม่ได้อยู่ในตำราทหาร แต่นอนอยู่ในข้อเท็จจริงเหล่านี้:

⛰️ 1. เมื่อ “ชัยภูมิ” อยู่เหนือ “แผนที่”
ในรอบนี้ กองทัพไทยไม่ได้ทำเพียงแค่ผลักดัน แต่เลือกที่จะ “เข้ายึด” และ “สถาปนาอธิปไตย” บนพื้นที่สูงอย่างเด็ดขาด นี่คือการเปลี่ยนเส้นสมมติในกระดาษให้กลายเป็นความจริงทางภูมิศาสตร์ ใครคุมชัยภูมิได้ คนนั้นคือผู้กำหนดกฎเกณฑ์ในการเจรจาครั้งต่อไป

🎰 2. “กาสิโนร้าง” บังเกอร์คอนกรีตที่ถูกทุบทิ้ง
เราได้เห็นภาพ F-16 และปืนใหญ่ถล่มตึกกาสิโนร้างที่ถูกทหารกัมพูชาใช้เป็นฐานปล่อยโดรน นี่คือสัญลักษณ์ว่า “โล่มนุษย์เชิงพาณิชย์” ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป เมื่อความมั่นคงถูกคุกคาม ทุนสีเทาและหุ้นส่วนลึกลับก็ไม่อาจคุ้มครองตึกพันล้านได้อีก การถล่มช่องอานม้าและช่องสายตะกูคือการ “ทุบหม้อข้าว” เพื่อทำลายขีดความสามารถในการรบของศัตรูอย่างไร้เยื่อใย

💰 3. สงครามตัดท่อน้ำเลี้ยง
ไทยแบกรับต้นทุนวันละพันล้าน แต่กัมพูชากำลังเผชิญกับภาวะ “เลือดไหลหมดตัว” เมื่อเขตเศรษฐกิจชายแดนถูกปิดตาย และเงินสดจากธุรกิจสีเทาไม่สามารถไหลไปหล่อเลี้ยงกองทัพได้เหมือนเดิม ท่อน้ำเลี้ยงที่เริ่มตันจะบีบให้ชนชั้นนำในพนมเปญต้องเลือกว่าจะ “สู้จนล่มสลาย” หรือ “ถอยเพื่อรักษาอำนาจ”

🩸 4. บาดแผลที่ไม่มีวันแห้ง
ทว่า… สิ่งที่น่ากังวลที่สุดไม่ใช่เรื่องงบประมาณ แต่คือความจริงที่ว่า “การปักปันเขตแดนด้วยเลือดอาจได้แผนที่ใหม่…แต่เลือดนั้นอาจไม่แห้งง่ายดาย” ชัยภูมิที่เรายึดมาได้ด้วยชีวิต จะต้องแลกด้วยงบประมาณมหาศาลในการเฝ้าระวังถาวร และความเกลียดชังที่ถูกปลูกฝังลงในหัวใจของคนรุ่นต่อไป สงครามอาจจบลงที่โต๊ะเจรจา แต่ความไว้วางใจที่สูญเสียไปอาจต้องใช้เวลาอีกชั่วอายุคนเพื่อเยียวยา

บทส่งท้าย: ในวันที่กระสุนนัดสุดท้ายหยุดลง เราอาจได้พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น หรือได้ยอดเขาที่เคยพิพาทกลับมา แต่เราต้องไม่ลืมถามตัวเองว่า: ในละครเรื่อง “ศึกชิงแผ่นดิน” ครั้งนี้ ประชาชนทั้งสองฝั่งคือผู้ชนะ…หรือเป็นเพียงตัวประกอบที่จ่ายราคาแพงที่สุดให้กับเดิมพันของเหล่าชนชั้นนำ?

Search

https://www.tiktok.com/@msjo.net

Twitter

https://www.youtube.com/channel/UCWQvQCFFyHZtznjgmYvVbfw