วิทยาการสาธารณภัย By ดร.วัฒกานต์ ลาภสาร

การจัดการภัยพิบัติในบริบทอาเซียน

ในปลายปี 2558 ไทยจะรวมเข้าเป็นครอบครัวเดียวกันกับฟิลิปบรูไนดารุสซาลาม ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาเลเซีย สหภาพพม่า สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ภายใต้คำขวัญ วิสัยทัศน์เดียว  อัตลักษณ์เดียวประชาคมเดียว

ดังนั้น การควบคุมสภาวะที่ระบบการทำงานของชุมชนหรือสังคมด้านการสูญเสียชีวิต และสิ่งแวดล้้อม ที่เกินกำลังความสามารถของชุมชนหรือสังคมโดยใช้ทรัพยากรของตนเองที่มีอยู่ จะต้องปรับให้สอดคล้องในบริบทของประชาคมอาเซียน  โดยต้องปรับปรุง ดังนี้

1. กฏเกณฑ์กติกาที่ชัดเจน ที่เป็นหนึ่งเดียว

ซึ่งกำลังพูดกันระดับวงวิชาการจนถึงระดับรัฐมนตรีระหว่างประเทศในกรอบ HFA แต่ก็กำลังมัวแต่พูดกันว่าต้องให้ส่วนนั้นส่วนนี้เข้ามาร่วม ต้องให้ความสำคัญกลุ่มนี้กลุ่มนี้ด้วย การเข้าไปศึกษาบริบทในแต่ละส่วน  ในแต่กลุ่ม เพื่อนำมาร่างเป็นเกณฑ์กติกาที่ชัดเจนเป็นหนึ่งเดียวยังห่างไกลความเป็นจริง เพื่อให้บรรลุผลการควบคุมจัดการความเสี่ยงภัยพิบัติ

2. ความมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง

ในทุกประเทศในกลุ่ม มีการบริหารจัดการแบบรวมศูนย์เกือบทุกประเทศ  แม้ภัยพิบัติเป็นภาวะภัยพิบัติส่งผลให้เกิดความโกลาหล และซับซ้อน  ซึงกระทบต่อ่การจัดการและแก้ไข  การกุมอำนาจของส่วนราชการ/รัฐจะทำให้จัดการปัญหาได้ดีในบางส่วนเท่านั้น  และไม่นำสู่ความยั่งยืน  การรวมศูนย์ จะจัดการได้ดีแน่ในด้านการนับศพ การขนศพ การเก็บซากปรักหักพังเท่านั้น แต่ประสิทธิภาพของการป้องกันและการจัดการในภาวะฉุกเฉิน  จะด้อยประสิทธิภาพมาก

ขั้นตอนที่สำคัญที่ประชาคมอาเซียนสามารถดำเนินการเพื่อการจัดการภัยพิบัติร่วมกัน มีดังนี้

  1. สร้างโครงสร้างการทำงานร่วมกัน: ประชาคมอาเซียนควรสร้างโครงสร้างและเครือข่ายทำงานร่วมกันในการจัดการภัยพิบัติ ซึ่งอาจรวมถึงการสร้างหน่วยงานที่รับผิดชอบในการตอบสนองภัยพิบัติ เช่น ศูนย์สารสนเทศการเจรจาในการจัดการภัยพิบัติ ศูนย์สั่งการร่วมกันในการปฏิบัติการ และคณะกรรมการร่วมกันในการวางแผนและดำเนินการเวลาฉุกเฉิน
  2. แบ่งปันข้อมูลและข่าวสาร: ประชาคมอาเซียนควรสร้างและพัฒนาระบบการแบ่งปันข้อมูลและข่าวสารภัยพิบัติร่วมกัน เพื่อให้สมาชิกประชาคมสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติประเภทต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลเชิงพื้นที่และเทคนิคการจัดการภัยพิบัติ
  3. การฝึกอบรมและประสานงานร่วมกัน: ประชาคมอาเซียนควรจัดการฝึกอบรมและประสานงานร่วมกันในการจัดการภัยพิบัติ โดยการสอนวิธีการตอบสนองฉุกเฉินและการทำงานร่วมกันในการเตรียมความพร้อมก่อนภัยพิบัติเกิดขึ้น การฝึกอบรมเหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มความเข้าใจและความพร้อมในการจัดการภัยพิบัติของสมาชิกประชาคม
  4. การสนับสนุนทางเทคนิค: ประชาคมอาเซียนควรให้การสนับสนุนทางเทคนิคแก่สมาชิกประชาคมเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการตรวจจับภัยพิบัติ วิเคราะห์สถานการณ์ และการคาดการณ์การเกิดภัยพิบัติ นอกจากนี้ การสนับสนุนทางเทคนิคยังสามารถเป็นประโยชน์ในการติดตามและบริหารจัดการภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ
  5. การบริหารจัดการเวลาฉุกเฉิน: ประชาคมอาเซียนควรกำหนดและปรับปรุงแผนการจัดการเวลาฉุกเฉินร่วมกัน เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการเวลาฉุกเฉินร่วมกันจะช่วย

—————————–5555555555555————————————-