จากการศึกษาของศาสตราจารย์ริชาร์ด ฟอสเตอร์ (Richard Foster) แห่งมหาวิทยาลัยเยล พบว่าอายุขัยเฉลี่ยของบริษัทหลักๆ ได้ลดลงจาก 67 ปี ในช่วงปี 1920 เหลือแค่เพียง 15 ปีในปัจจุบัน  และข้อมูลสำคัญของยุค Disruption ได้แก่

1.ทำไมธุรกิจยักษ์ใหญ่ถึงลมสลาย

1.1 ความล้าสมัยขององค์กร ที่มักจะใช้เหตุการณ์ในอดีตอันใกล้เป็นตัวชี้นำความคาดหวังที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต

1.2 การขาดการรับรู้ว่ามีอะไรบ้างที่รออยู่ข้างหน้า

2.ทำไมธุรกิจที่ยังคงอยู่จึงรอดมาได้

มีเหตุผลเดียว คือ ยอมรับอำนาจผู้บริโภค โดยต้องเกาะกระแสของผู้บริโภค 3 กระแสให้ทัน คือ

2.1 ข้อมูล

2.2 ตัวเลือก

2.3 เสียง

https://www.coraline.co.th/single-post/2019/08/19/what-is-disruption / https://www.marketingoops.com/digital-transformation/data-treasure-overcome-disruption/ / https://thaipublica.org/2018/06/seac-disruption/

ที่กล่าวมาข้างต้น ในปรากฎการณ์พลิกผันในภาวะระบบทางสังคมเป็นประชาธิปไตย  ในประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตยธุรกิจยักษ์ใหญ่จะมีความมั่นคงดั่งภูผาหิน สามารถผูกขาดตลาดในประเทศได้อย่างสมบูรณ์  ที่สามารถออกมาแข่งขันภายนอกประเทศได้ก็ขึ้นกับความสามารถพิเศษของพลเมือง

และก็เช่นเดียวกัน หน่วยงาน ปภ.จำกัด ดำเนินงานอยู่ภายใต้การใช้เหตุการณ์ในอดีตอันใกล้ๆ เป็นตัวชี้นำ เป็นตัวขับเคลื่อนการดำเนินการเพื่อรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ยังไม่ให้ความสำคัญต่อการรับรู้ว่ามีอะไรบ้างรออยู่ข้างหน้า (มีคำพูดลอยๆ ที่แสดงว่ารู้อะไรรออยู่เบื้องหน้า ว่ามีความเสี่ยง มีสถิติสาธารณภัยที่เพิ่มสูงขึ้น มีความถี่ มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น) และที่สำคัญไม่มีการยอมรับอำนาจของผู้ประสบภัย ที่จะต้องใส่ใจในศักยภาพของการให้ข้อมูล ศักยภาพของการเลือกสรร และพลังอำนาจของความต้องการ/ความคิดเห็น (เสียง) อันเป็นการนำองค์กรสู่ Disruption

แต่ถึง ปภ.จำกัดจะใช้จ่ายภาษีเพื่อนำองค์กรสู่ Disruption แต่ยังไงก็จะยังคงสามารถขยายองค์กร (ทั้งคน (ฝากกันตรึมทั้งบาง นักการเมือง เครือข่ายข้าราชการ ขนาดเจ้าอาวาสที่หมูหวานใจนักข่าวชอบไปทำบุญยังฝากผ่านเลขาของหมูนากากันเลย ทั้งงบประมาณ ทั้งขนาดองค์กร) นำเสนอขอใช้เงินภาษีปีละ 6-7 พันล้านบาท มาใช้อย่างฉลุยฉุยแฉก (ร้อยละ 80 สำหรับจัดซื้อจัดจ้าง)

ทั้งนี้ จะโทษ ปภ.จำกัดฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้  ต้องโทษตัวเราเองด้วยที่ยอมให้ประเทศมีระบบการเมืองแบบเผด็จการขวาจัด ฟาสชิสต์ ถือกันว่าเป็นระบบการปกครองที่ชั่วร้าย ห่วยแตกที่สุดแล้ว และไม่เคยมีที่ไหนในโลกที่ทำให้ประเทศใดเจริญขึ้นได้จริง มีแต่พาถอยหลังลงคลองทั้งนั้น

ประเทศชาติและประชาชน  นอกจากจะเจอความโหดร้ายจากธรรมชาติแล้ว ยังต้องเจอการไร้ความปราณีจากภาครัฐปรสิต

——–xxxxx——