การสร้างความเป็นอื่นด้านภัยพิบัติให้แก่พื้นที่ประสบอุทกภัยหรือน้ำ้ท่วม ประชาชนคนไทยได้ถูกเอารัดเอาเปรียบด้วยการเอาเงินภาษีมาเลี้ยงข้าวเที่ยงและเสียเวลานั่งฟังความหมายคำนิยามต่างๆของอุทกภัย พร้อมกับการโฆษราชวนเชื่อถึงภารกิจโครงสร้างการทำงานด้านอุทกภัยของหน่วยงานของตน มีการยืดเส้นยืดสายหลังจากนั่งฟังครึ่งวันโดยเก็บข้าวเก็บของขึ้นรถขึ้นรถพ่วงมอเตอร์ไซต์รอบหมู่บ้านชุมชน (เรียกขานซะโก้หรูว่า CBDRM)ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว มีความจำเป็นจริงๆ แค่สองพันกว่าหมู่บ้านชุมชน
แต่ด้วยความชอบง่ายๆ สบายๆๆ ด้วยเงินภาษี จึงอาจจะสูญเสียเม็ดเงินที่จำเป็นต้องใช้ในงานอื่นๆ ที่สำคัญกว่า ไปอีกเป็นหมื่นๆ หมู่บ้าน (เขาทำเรื่อยเปื่อยแบบไร้..งเบา… ไร้สำนึก แต่ละปี จังหวัดหนึ่ง 5 หมู่บ้านชุมชน) หมู่บ้านชุมชนที่ไม่มีความจำเป็นสำหรับการดำเนินงานดังกล่าว เรียกว่าได้ถูกสร้างความเป็นอื่นให้กับหมู่บ้านชุมชน ทั้งที่ในด้านอุทกภัย ที่ควรจะดำเนินการเพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอาจจะเป็นการบำรุงรักษาหน้าดินเพื่อป้องกันการไหลบ่าอย่างรวดเร็ว ด้วยการเพาะปลูกพืชอย่างยั่งยืน การปรับปรุงวิศวกรรมภูมิทัศน์ การรักษาป่าไม้ แม่น้ำลำคลอง
และที่สำคัญคือระบบการตรวจแจ้งความเสี่ยงแก่ชุมชนที่มีควkมเสี่ยง อย่างเช่น ในปี 2562 เดือนสิงหาคม ในพื้นที่อำเภอหนองสองห้อง อ.เปือยน้อย อ.พล และ อ.โนนศิลามีฝนตกหนัก ในพื้นที่ไม่มีน้ำ้ท่วมแต่มวลน้ำกลับรวมตัวกันไหลเช้าท่วมอำเภอบ้านใผ่ เป็น้ำท่วมในรอบ 100 ปี ที่ไม่เคยเกิดขึ้น
แม้แต่ภาคสื่อมวลชนก็มีการสร้างความเป็นอื่นให้เกิดขึ้นกับเหตุการณ์อุทกภัย โดยที่มักจะให้ความสนใจเสนอข่างในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ความน่าเวทนาของผู้ประสบภัย โดยไม่ได้ให้ความสนใจในลักษณะการเกิด เหตุการณ์เกิดขึ้นในลักษณะใด ซึ่งก็น่าเห็นใจสื่อมวลชนที่หน่วยงานที่รับผิดชอบเขาก็ไม่อยากให้ขุดคุ้ยมากนัก
—————////////////////——————