วิทยาการสาธารณภัย By ดร.วัฒกานต์ ลาภสาร

เป็นความหายนะของอัตตลักษณ์สังคมไทยในช่วงวันสงกรานต์ และอาจจะเป็นช่วงหายนะของบางครอบครัว ไม่น้อยกว่าครึ่งพันครอบครัวในแต่ละปี

 

 

การจัดงานวันสงกรานต์ แม้หน่วยงานของทางราชการจะเป็นเจ้าภาพส่วนใหญ่ก็เน้นการรื่นเริง สร้างมูลค่าทางการตลาดกันมหาศาล โดยคำนึงถึงการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีวันสงกรานต์น้อยเต็มที กระทรวงวัฒนธรรมก็จัดตั้งขึ้นมาแล้วก็จะต้องบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ดลบันดาลให้มีวัฒนธรรมในการทำงานที่มุ่งผลสัมฤทธิ์อนุรักษ์ฟื้นฟูอัตตลักษณ์อันดีของชาติให้คงอยู่กับลูกหลานต่อไป

จากการรดน้ำพรมน้ำ ก็ได้เปลี่ยนเป็นการสาดน้ำกันโครมๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งคนขับขี่ยวดยานพาหนะ มีทั้งบังคับให้จอดสาดน้ำ/ลวนลามอนาจาร หาบรรยากาศของการเคารพซึ่งกันและกัน ขาดการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมนุษย์ที่ใช้น้ำเป็นสื่อสัมพันธ์กัน  ไม่จอดก็สาดทั้งที่รถยังมีความเร็วอยู่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะรถจักรยายนต์ที่คนขับขี่ได้รับบาดเจ็บล้มตายจากกรณีนี้  แต่ก็ยังมีพฤติกรรมที่ฆ่าคนให้ตายได้ตลอดมา ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนก็เล่นกับตัวเลขสถิติของอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์แบบลิงหลอกเจ้า หน่วยงานเจริญรุ่งเรืองขึ้นทุกวันแต่ประชาชีซ้ำต่อไป

การสาดน้ำทำให้มีการใช้น้ำในปริมาณมากกว่าประเพณีอันดีงามในอดีตประมาณ ๒๐ เท่า ทั้งๆที่มีแนวโน้มที่จะขาดแคลนน้ำกันทั่วทั้งโลก แต่คนไทยคงยังไม่สำนึกในช่วงนี้

สถิติการบาดเจ็บ/ล้มตายจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็เพิ่มขึ้นจากเดือนอื่นๆบ้างตามความเสี่ยงที่มีมากขึ้น ที่สำคัญสาเหตุหรือสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุมันได้ฝังรากลึก การแก้ไขต้องขุดรื้อไม่ใช่กวาดปรับให้เรียบร้อย

ขอวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้สังคมไทยได้ใช้ช่วงสงกรานต์เป็นช่วงที่เริ่มต้นสิ่งดีๆในสังคมเพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมให้ลูกให้หลานต่อไป