เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น จนก่อให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินหรือในภาวะวิกฤตที่มีผลกระทบต่อพื้นที่ระดับจังหวัด จะต้องดำเนินการในภาวะวิกฤต ดังนี้
๑. ภายใน ๑๒ ชั่วโมงแรกของการปฏิบัติงาน คือ การลดช่องว่าง(GAP) ใน ๒ ด้าน
ด้านแรก การติดตามภารกิจของหน่วยงานต่างๆ
ด้านที่สอง ระบบโลจิสติกส์
๒. ภายใน ๒๔ ชั่วโมงแรกของการปฏิบัติงาน คือ การลดช่องว่าง(GAP) ใน ๒ ด้าน
ด้านแรก ซักซ้อมความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่บุคลากรในหน่วยงานต่างๆ
ด้านที่สอง ประสิทธิผล โดยยึดหลักที่สำคัญ ๒ ประการ คือ ประสิทธิภาพและการลดผลกระทบ
๓. ภายใน ๓๖ ชั่วโมงแรกของการปฏิบัติงาน คือ การลดช่องว่าง(GAP) ใน ๒ ด้าน
ด้านแรก การประเมินข้อบกพร่อง ข้อขัดข้อง ความล้มเหลวหรือความผิดพลาด(Failure Mode and Effect Analysis(FMEA)) ..
ใน ๒ ประเภท คือ Design FMEA และ Process FMEA
ด้านที่สอง ศักยภาพการใช้ Statistical process control(SPC) เพื่อติดตามควบคุมและออกแบบกระบวนการทำงานใหม่
จากปัจจัยที่เป็น Common Causes และ Special Causes
๔. ภายใน ๔๘ ชั่วโมงแรกของการปฏิบัติงาน คือ การลดช่องว่าง(GAP) ใน ๒ ด้าน
ด้านแรก ห่วงโซ่อุปทาน(Supply Chain) เพื่อให้เกิดคุณภาพ สร้างคุณค่าจากการสอดประสานดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ
ด้านที่สอง การวางกลยุทธ์ Outsourcing เพื่อสนับสนุนห่วงโซ่อุปทาน(Supply Chain)
๕.ภายใน ๓ วันแรกของการปฏิบัติงาน คือ การลดช่องว่าง(GAP) ใน ๒ ด้าน
ด้านแรก การวางกลยุทธ์ Poka-Yoke เพื่อทำให้ข้อผิดพลาดในกระบวนการบริหารจัดการไม่มีวันเกิดขึ้น หรือถ้าหากเกิดขึ้นก็สามารถสังเกตุเห็นได้ทันที
ด้านที่สอง ศักยภาพการใช้ Seven Quality Control Tools เพื่อปรับปรุงการบริหารจัดการของผู้อำนวยการจังหวัด
๖.หลังจากนั้น จะยังคงปฏิบัติการจนกว่าผู้อำนวยการจังหวัดเชื่อมั่นได้ว่าไม่มีช่องว่างใดเกิดขึ้น
—————————————-55555———————————————-