ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2563 รัฐบาลได้กู้เงินมาเกือบ 1.99 ล้านล้านบาท โดยมีสี่แสนล้านบาทจะได้มีแผนงาน/โครงการไหลทะลักออกมาจากสิ่งที่ตั้งอยู่บนบ่าของข้าราชการของประเทศไทย รวมทั้งตัวที่อยู่ในหลืบก็จะเริ่มออกมาวิ่งทำโครงการแผนงานกับข้าราชการ
แทะเล็มกันตามส่วนตามชั้นระดับต่างๆ ทำให้โครงการต้องกลวงต้องขาด ประสิทธิภาพการใช้งานที่แทบจะไม่มีประโยชน์กับหมู่บ้านชุมชนแล้ว ยังต้องมานั่งมองดูอายุการใช้งานที่น้อยนิด
หลายๆ หน่วยงานกำลังขมักเขม้นทำโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งรวมแล้วก็จะใช้เงินที่พวกเราจะต้องใช้หนี้หลายหมื่นล้านบาท แต่โครงการลักษณะใหม่ที่นำมาซึ่งความยั่งยืนมากกว่าลักษณะโครงการแบๆ เดิม ก็คงไม่มีให้เห็น ซึ่งลักษณะโครงการซึ่งจะยั่งยืนต่อการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในระยะ 100 ปี มีมรดกไว้ให้ลูกหลานได้ใช้ประโยชน์จากการที่พวกเขาถูกเบียดบังโอกาสในการพัฒนาด้านต่างๆ ดังนี้
1.ขุดหลุมในคลอง เพราะคลองที่ทำตามรูปแบบเดิมนั้น ไม่สามารถกักเก็บน้ำ้ไว้ใช้ประโยชน์ตลอดทั้งปี จะต้องมีการขุดหลุมเป็นช่วงๆ ในคลองเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ให้ได้ตลอดปี
2. เชื่อมหนองน้ำ ด้วยาสภพอากาศที่แม้จะมีปริมาณฝนตกในปริมาณเท่าๆ เดิม ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่วันที่ฝนตกจะน้อยลงเรื่อยๆ และตกไม่กระจายเต็มพื้นที่ จะเป็นลักษณะตกหนักในบริเวณเป็นหย่อมมากขึ้น ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงจะต้องมีการเชื่อมแหล่งนำ้เพื่อนำนำ้จากแหล่งที่กักเก็บไว้มากแล้วกระจายไปยังแหล่งน้ำ้ที่ไม่สามารถกักเก็บได้ในปีนั้นๆ
3. แหล่งน้ำประจำครัวเรือน ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการในการส่งเสริมการใช้แหล่งน้ำในครัวเรือนมากขึ้น หลายหมื่นล้านบาทที่ถูกใช้โโยข้าราชการและพ่อค้านักธุรกิจจัดซื้อถังน้ำไปแจกจ่ายให้ชุมชน แต่ร้อยละ 99 ถังน้ำเหล่านั้นแทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์ ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเงื่อนไข และกำหนดวิธีการใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าเงินให้มากขึ้น
4. สร้างแทงค์น้ำยักษ์ประจำชุมชน ทำระบบท่อและรางน้ำนำน้ำฝนที่ตกมาเก็บรวมไว้ใช้ประโยชน์ ออกแบบสร้างได้ทั้งบนดินและอาจออกแบบสร้างไว้ใต้ดินถ้าสร้างไว้บนดินก็ออกแบบบ่อพักน้ำ้แล้วสูบเข้าเก็บแทงค์น้ำ
———————/////////////////////////////////——————————-