ในมโนจิตแบกแต่ความคิดด้านลบหรือที่ไม่เป็นคุณต่อชีวิตและสังคมไว้เต็มสมองจะไม่ช่วยอะไร นอกจากจะดึงเราและสังคมให้เปราะบาง รอความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติมากระหน่ำซ้ำเติมให้หายนะ แม้มนุษย์เราจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถในการพัฒนาตัวเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมกลายเป็นความจริงได้เพียงแค่เรามีความตั้งใจ มีเป้าหมาย มีแผนการที่ชัดเจน และที่สำคัญเราต้องมีการลงมือทำเพียงเท่านั้นเอง แต่การลงมือทำที่จะไม่ล้มเหลวเราจะต้องมีทัศนคติที่ดีกำกับ จากการศึกษาทัศนคติที่นำไปสู่ความอยู่รอดปลอดภัยพิบัติ จากประชาชนจำนวน 450 คนในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ระหว่างเดือนตุลาคม 2562 – มีนาคม 2563 พบข้อเท็จจริง ดังนี้
ตารางแสดงผลการศึกษาทัศนคติที่นำไปสู่ความอยู่รอดปลอดภัยพิบัติ
ทัศนคติ |
ระดับความสำคัญ |
Mean |
Median |
ลำดับความสำคัญ |
||||
5 |
4 |
3 |
2 |
1 |
||||
เปิดใจกว้างรับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ |
80 |
90 |
130 |
80 |
70 |
3.75 |
3 |
1 |
รู้จักสงสัยและตั้งคำถามถึงความเชื่อและกฎเกณฑ์ ต่าง ๆ ที่ถูกอบรมสั่งสอนมาแต่อ้อนแต่ออก |
75 |
108 |
115 |
72 |
65 |
3.41 |
3 |
2 |
ขยายวงสังคม |
70 |
80 |
165 |
45 |
65 |
3.15 |
3 |
3 |
รู้จักใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย |
|
|
120 |
70 |
10 |
2.55 |
3 |
4 |
ตระหนักถึงความขัดแย้งในชีวิต |
|
20 |
90 |
60 |
30 |
2.35 |
3 |
5 |
สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดในสังคม |
|
15 |
102 |
140 |
56 |
2.10 |
3 |
6 |
ข้อแรก “เปิดใจกว้างรับสิ่งใหม่อยู่เสมอ”
การเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนความคิดให้สอดคล้องกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ซึ่งในด้านภัยพิบัติ หน่วยงานที่รับผิดชอบนั้นไม่เพียงข์าดความรับผิดชอบแต้่ยั่งทำงานสนองประโยชน์ของชนชั้นสูงและพวกมีอำนาจเป็นสำคัญ ความอยู่รอดปลอดภัยจึงต้องมีทัศนคตินี้อยู่เป็นนิจ
ข้อ 2 รู้จักสงสัยและตั้งคำถามถึงความเชื่อและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ถูกอบรมสั่งสอนมาแต่อ้อนแต่ออก
เนื่องจากสภาพนิเวศได้เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตเป็นอันมาก หลักพุทธศาสนาที่สำคัญคือทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีสาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้น และย่อมมีการแปรเปลี่ยนไม่สามารถคงทนอยู่ได้แม้ในขณะจิตเดียว ความอยู่รอดปลอดภัยพิบัติจึงต้องมีทัศนคตินี้อยู่เป็นนิจ
ข้อ 3 “ขยายวงสังคม”
การมีวงสังคมที่กว้างขวางและแวดล้อมไปด้วยผู้คนที่คิดต่าง เป็นทางที่ดีที่สุดในการเอาชนะความเข้าใจไปเองและการตัดสินคนอื่นล่วงหน้า ทั้งยังทำให้เห็นโลกในมุมมองใหม่ ๆ ผู้คนส่วนมากไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร “มักจะจำกัดตัวเองอยู่ในวงสังคมที่แวดล้อมไปด้วยคนที่มีความคิดหรือความเห็นไปในเชิงเดียวกัน” การจำกัดตัวเองให้อยู่ในสังคมเดิม มีความคิดแบบเดิม ทำให้ขาดแรงกระตุ้นที่มาท้าท้ายความเชื่อแบบเดิม ๆ ดังนั้น การเอาชนะความคิดแบบเดิม ๆ คือหัดพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนที่มีความเห็นต่างจากเราออกไป การเห็นโลกในมุมมองใหม่ๆ ไม่มีความเข้าใจไปเอง มีความสำคัญต่อความอยู่รอดปลอดภัยพิบัติจึงต้องมีทัศนคตินี้อยู่เป็นนิจ
ข้อ 4 “รู้จักใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย”
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตหรือแนวทางชีวิตของตนเองอาจกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับชุมชนหลายแห่งที่หันมาใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและพอเพียง และให้ความสำคัญกับอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถใช้ร่วมกันได้ ความอยู่รอดปลอดภัยพิบัติจึงต้องมีทัศนคตินี้อยู่เป็นนิจ
ข้อ 5 “ตระหนักถึงความขัดแย้งในชีวิต”
เป็นลักษณะของคนส่วนใหญ่ที่มีความขัดแย้งขึ้นในชีวิต ระหว่างความรักต่อมวลมนุษยชาติ ความพยายามจะทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม กับความต้องการฐานะอันมั่งคั่งและวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยสิทธิพิเศษได้อย่างสิ้นเชิง ความตระหนักถึงความขัดแย้งนี้จะช่วยให้เรามีการตรวจสอบถ่วงดุลให้เรามีวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับสภาพนิเวศมากขึ้น ความอยู่รอดปลอดภัยพิบัติจึงต้องมีทัศนคตินี้อยู่เป็นนิจ
ข้อ 6 พัฒนาหลักการแห่งการ “สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดในสังคม” โดยเริ่มจากก้าวเล็กๆ จากตัวเอง
การเพิ่มพฤติกรรมด้านบวกใหม่ๆ ที่ดีในชีวิต วันหนึ่งพฤติกรรมด้านบวกจะผลักสิ่งแย่ๆ ออกไปจากชีวิต ความอยู่รอดปลอดภัยพิบัติจึงต้องมีทัศนคตินี้อยู่เป็นนิจ
—————xxx————–