วิทยาการสาธารณภัย By ดร.วัฒกานต์ ลาภสาร

สัญาณเตือน “อาการง่วง” ในขณะขับรถ  ที่จะทำให้ผู้ขับขี่รู้ว่าตนเองมีอาการ “ง่วง” มีดังนี้

๑.หาวบ่อยและหาวต่อเนื่อง

๒.ใจลอยไม่มีสมาธิ

๓.รู้สึกเหนื่อยล้า หงุดหงิด กระวนกระวาย

๔.จำไม่ได้ว่าขับรถผ่านอะไรมาเทื่อสองสามกิโลเมตรที่ผ่านมา

๕.รู้สึกหนักหนังตา ตาปรือ ลืมตาไม่ขึ้น มองเห็นภาพไม่ชัด

๖.รู้สึกมึน หนักศรีษะ

๗.ขับรถส่ายไปมาหรือออกนอกเส้นทาง

๘.มองข้ามสัญญาณไฟและป้ายจราจร

 

ใคร คือกลุ่มเสี่ยงสูงของการเกิดอุบัติเหตุ จากการ ง่วงหลับใน

 

๑.คนในวัยหนุ่มสาว : โดยเฉพาะคนที่มีกิจกรรมช่วงหัวค่ำแล้วนอนดึก  นอนหลับไม่เพียงพอ ดังนั้น หากนอนน้อยควรชดเชยการนอน  ไม่ควรเป็นหนี้การนอนไปเรื่อยๆ

๒.คนที่ทำงานเป็นกะหรือผลัด หรือมีชั่วโมงการทำงานมาก จากการทำงานมากกว่า ๑๒ ชั่วโมง

๓.คนที่มีอาชีพขับรถรับจ้าง รถขนส่ง จากการขับรถระยะทางไกลๆหรือเป็นเวลานานหลายชั่วโมง  นักวิจัยออสเตรเลียพบว่า คนที่ตื่นตลอดเวลาติดต่อกัน ๑๘ ชั่วโมง จะมีประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายลดลงเท่ากับคนที่มีระดับแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด ๕๐ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์  และถ้านาน ๒๔ ชั่วโมง จะเท่ากับคนที่มีระดับแอลกอออล์ในกระแสเลือด ๑๐๐ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

๔.นักธุรกิจที่เดินทางเป็นประจำ นอนไม่เป็นเวลา

๕.คนที่มีภาวะผิดปกติในการนอน

๖.คนที่ได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซต์ที่เกิดจากรถยนต์ ซึ่งอาจรั่วเข้าไปในรถ หรืออยู่ระหว่างรถติด

๗.อยู่ในระหว่างกินยาบางชนิด เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ ยากันชัก ยาแก้โรคซึมเศร้า

๘.ผู้สูงอายุ ที่มีความเสื่อมของสภาพร่างกายเป็นไปตามวัย

 

——————[[[[[[[[[[[[[[[[————————–