วิทยาการสาธารณภัย By ดร.วัฒกานต์ ลาภสาร

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 กำหนดให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัย เพื่อป้องกันอันตรายในการขับขี่

และหากฝ่าฝืน จะมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท หากผู้ขับขี่ให้ผู้โดยสารโดยไม่สวมหมวกนิรภัย ผู้ขับขี่จะถูกปรับเป็น 2 เท่าของโทษที่กำหนด เด็กๆก็เป็นไปตามข้อบังคับนี้นะครับ

สถานการณ์ปัจจุบัน ในปี 2559 มีอัตราการสวมหมวกนิรภัยเพีง ร้อยละ 35 ทั้งนี้ ปัญหาการไม่สวมหมวกนิรภัย จะต้องได้รับการแก้ไขในวัฒนธรรม 3 ส่วน คือ

1.วัฒนธรรมชาวบ้าน โดยมีอิทธิพลต่อการรับรู้ ทัศนคติ และการให้ความหมายต่อความเสี่ยงอุบัติเหตุ เช่น วัฒนธรรมวัยรุ่น วัฒนธรรมคนขับรถบรรทุก วัฒนธรรมชาติพันธุ์ เป็นต้น

2. วัฒนธรรมองค์กร

3.วัฒนธรรมผู้เชี่ยวชาญ/นักวิชาการ

โดยที่ ข้อ 2 และข้อ 3 มีอิทธิพลในการกำกับแบบแผนวิธีคิด วิถีปฏิบัติ กระบวนการสร้างความรู้ รูปแบบการทำงานรณรงค์ การให้สุขศึกษา

 

ปัญหาการสวมหมวกนิรภัย อาจไม่สามารถวิเคราะห์ได้ผ่านสมการตัวเลขสถิติอย่างเป็นวัตถุวิสัย

การแสดงออกที่ไม่สวมหมวกนิรภัย มีปัจจัยทางสังคมวัฒนธรรมเป็นฐาน และมีมุมมองต่ออิทธิพลทางวัฒนธรรม อารมณ์ สุนทรียะ จริยศาสตร์ ศีลธรรม และกฏเกณฑ์ทางสังคม

อันเป็นความจริงที่วัดไม่ได้ แต่อธิบายได้

แต่ปัจจุบัน  มัวติดกับดักอยู่กับตัวเลข  หาได้เพิ่มองค์ความรู้ด้านวัฒนธรรมแต่อย่างใด  เศร้าใจจัง