ปกติเราทุกคนมี 2 โลกอยู่ในตนเอง (เทียบเคียงจากวิถีชีวิตของนักร้องดังที่บอกว่าเขามี 2 โลกในเวลาเดียกัน) ภายในตัวก็จะมีโลกภายในของตัวเองโดยโลกที่ 2 อาจไม่ปรากฏชัดมากนัก แต่ก้าวออกมามีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในรูปแบบต่างๆ เราจะมีโลกที่ 2 ทันที
โลกใบที่ 1 โลกอัตตานิยม (Self-Centored World)
ในโลกใบนี้ เราจะมีการแสดงออกให้เป็นที่รับรู้ของคนอื่นตามพื้นฐานศักยภาพที่ได้สั่งสมกันมา ส่วนใหญ่ศักยภาพถูกขับเคลื่อนมาจากการรับรู้ ความรู้ความเข้าใจที่สั่งสมมา
โลกใบที่ 2 โลกจิตสาธารณะ (Communal World)
ในโลกใบนี้ เราจะพยายามแสดงออกให้เห็นการคำนึงผลประโยชน์ส่วนรวม ให้ความสำคัญกับทรัพย์สินสาธารณะ โลกใบนี้ขับเคลื่อนด้วยความไว้วางใจ การเกื้อกูลแบ่งปันกัน
บนท้องถนนปัจจุบัน
1.เราเองส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถจัดความสมดุลให้โลกทั้ง 2 ใบนี้ให้สมดุลได้ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนระคายเคืองต่อจิตใจเป็นเบื้องแรก ถ้ารุนแรงขึ้นก็จะก่อความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่น จนอาจถึงขั้นเป็นฆาตกรไปโดยไม่เจตนา
2.เหล่าผู้มีหน้าที่รับผิดชอบหรือข้าราชการผู้ขลาดเขลาต่อสิ่งใหม่ๆ ต่างระดมกันส่งเสริมโลกอัตตานิยมกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ทั้งค่าปรับทั้งเงินงบประมาณแผนงานโครงการเพื่อใหเกิดความหลาบจำ ละเลยการสร้างโลกจิตสาธารณะ สนับสนุนให้เกิดความไว้วางใจกัน(คนทำดีก็ต้องมีเครดิตทางสังคม เป็นต้น) ประกอบกับความเป็นพลเมืองของคนไทยอยู่ในระดับต่ำเตี้ย (ใช้สิทธิเสรีภาพโดยมีความรับผิดชอบ เคารพสิทธิผู้อิ่น เคารพความแตกต่างเคารพกติกา)
ท้องถนนที่ปลอดภัยจะต้องมีความสมดุลของโลกทั้ง 2 ใบ ในตัวเอง แต่โอกาสที่ เราจะเห็นการพัฒนาให้มีความสมดุลของโลก 2 ใบนี้บนท้องถนน ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่ได้สถาปนารัฐราชการ สถาปนาระบบสมคบคิด สถาปนาความเข้มแข็งของระบบอุปถัมภ์ขึ้น ลดทอนอำนาจ ของประชาชน ให้เป็นเพียงผู้ใต้ปกครอง สนับสนุนให้บริการภาครัฐเป็นไปด้วยความโง่เขลาบนผลประโยชน์องค์กรมากกว่าผลประโยชน์ของประชาชน
—————————555———————————-