สาธารณภัยภายใต้พลังอำนาจแข็ง(Hard Power) หรือ อำนาจอ่อน(Soft Power)
อำนาจแข็ง หมายถึง ความสามารถของประเทศที่จะใช้วิธีการทางทหารและเศรษฐกิจเพื่อ
มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของประเทศอื่น ซึ่งรวมถึงการใช้กำลังทหาร การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และกลยุทธ์บีบบังคับอื่นๆ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ แม้ว่าอำนาจแข็งมักจะเกี่ยวข้องกับรูปแบบดั้งเดิมของอำนาจรัฐ แต่ก็ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับประเทศที่ต้องการปกป้องผลประโยชน์ของชาติและใช้อิทธิพลของตนในเวทีโลก
อำนาจอ่อน คือ ความสามารถของประเทศในการบรรลุเป้าหมายผ่านการดึงดูด การโน้มน้าวใจ หรือมีอิทธิพล มากกว่าการใช้วิธีการทางทหารหรือเศรษฐกิจ ซึ่งอาจรวมถึงการส่งเสริมวัฒนธรรม ค่านิยม และแนวคิดทางการเมืองของประเทศ ตลอดจนการทูตและการมีส่วนร่วมในรูปแบบอื่นๆ กับประเทศอื่นๆ อำนาจที่นุ่มนวลมักจะตรงกันข้ามกับอำนาจที่แข็ง ซึ่งอาศัยการบีบบังคับและกำลังเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ อำนาจแข็งอาจมีราคาแพงและแตกแยก อำนาจอ่อนมักถูกมองว่าเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนกว่าในการบรรลุเป้าหมาย
ตัวอย่างของ Soft Power อาจรวมถึงอิทธิพลระดับโลกของประเทศผ่านวัฒนธรรมสมัยนิยม เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ และแฟชั่น ตลอดจนความสามารถในการสร้างแนวร่วมระหว่างประเทศผ่านการทูตและความร่วมมือในประเด็นต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิทธิมนุษยชน และการพัฒนาระหว่างประเทศ
เมื่อนำคำทั้ง 2 คำดังกล่าวมาใช้เปรียบเทียบกับการบริหารจัดการสาธารณภัย ก็จะพบว่าลักษณะการบริหารจัดการเป็นอำนาจอ่อน แต่ผ่านการปฏิบัติแบบอำนาจแข็ง ภายใต้แนวคิดรัฐราชการปรสิต
การปฏิบัติแบบอำนาจแข็ง ถูกผนึกแน่นอย่างยิ่ง ตั้งแต่มีการปฏิรูประบบราชการเมื่อปี พ.ศ.2545 ตัวอย่างประเด็นการแช่แข็งของพวกปรสิต ได้แก่
1.ละเลย เพิกเฉยต่อการเรียนรู้ การรับรู้ต่อการประสบพิบัติ รับผิดชอบต่อประชาชนด้วยการปัดสวะ (มีความเดือดร้อนก็ช่วยตามกำลัง และแรงศรัทธาของประชาชนร่วมชาติ)
2.แช่แข็งการมีส่วนร่วมด้วยการบิดเบือน ด้วยการเอาประชาชนส่วนหนึ่งมาจัดตั้งกองกำลังสนับสนุนภารกิจลับ ลวงพรางตัวของตัวเอง
แนวทางการแก้ไขความเลวร้ายดังกล่าว
ยกเลิกภารกิจตามข้อ 1 และข้อ 2 ด้วยการยกเลิกการบริหารราชการแผ่นส่วนที่เป็นราชการส่วนภูมิภาค ด้วยศักยภาพของพวกปรสิตระดับส่วนภูมิภาคไม่มีวันจะมีศักยภาพเพียงพอที่จะก้าวพ้นระบบอุปถัมภ์ ที่สร้างกลไกการฉกฉวยผลประโยชน์บนอำนาจหน้าที่ที่รับผิดชอบ