วิทยาการสาธารณภัย By ดร.วัฒกานต์ ลาภสาร

ความสำคัญของการสรุปบทเรียนการจัดการภัยพิบัติแต่ละครั้งนั้น คือ เป็นเครื่องมืออันสำคัญของผู้ที่ทำงานจัดการภัยพิบัติจะส่งต่อให้ตัวแทนในการขัดเกลาทางสังคม เพื่อให้ตัวแทนในการขัดเกลาทางสังคมมีกระบวนทัศน์ในการจัดการภัยพิบัติต้องตรงกัน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อันจะทำให้ทุกตัวแทนการขัดเกลาทางสังคมมีเป้าหมายในการจัดการภัยพิบัติร่วมกัน อันนำไปสู่การขับเคลื่อนกระบวนการไปสู่จุดหมาย/เป้าหมายเดียวกันทั้งองคาพยพ

ทั้งนี้ การขัดเกลาทางสังคม คือ การนำคนเข้าสู่ระบบของสังคม โดยผ่านกระบวนการต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่ขัดเกลาอัตตชีวะให้พ้นจากสภาพสัญชาตญาณเดิมจนกลายเป็นมนุษย์สังคม

 

เพื่อให้สังคมอยู่อย่างปลอดภัยจากภัยพิบัติ การขัดเกลาทางสังคมดังกล่าวจะต้องมีกระบวนทัศน์ต่อการเกิดภัยพิบัติว่า ภัยพิบัติต้องเกิดขึ้นแน่นอน  ฉะนั้น ต้องมีการวางแผนการรับมือ  ต้องมีระบบที่มาตรฐานอันประกันได้ระดับหนึ่งว่าจะทำให้ทุกตัวแทนการขัดเกลาทางสังคมให้ความสำคัญกับการรับมือกับภัยพิบัติ ทำหน้าที่ให้ความรู้ เตรียมความพร้อม มีการวางแผน สรุปบทเรียน ปลูกฝังวัฒนธรรมการรับมือกับภัยพิบัติให้กลายเป็นวิถีชีวิต มีการจัดทำคู่มือการปฏิบัติตัว (How to) เมื่อเผชิญภัยพิบัติทุกหน่วยงาน

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน กระบวนทัศน์ในการจัดการภัยพิบัติของหน่วยงานต่างๆ ของประเทศไทยไปกันคนละทิศคนละทาง นอกจากนี้ในหลายกรณีสะท้อนให้เห็นว่า สังคมมีกระบวนการทัศน์ต่อการจัดการภัยพิบัติโดยอาศัยความเชื่อ ความนิยมชมชอบ ความต้องการเฉพาะตนเฉพาะกลุ่มมากกว่าอาศัยความรู้ทางวิชาการ อาศัยหลักคุณธณรม จริยธรรม อีกทั้ง ในหลายๆ กรณีถูกนำไปเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ทางการเมือง

หลักการสรุปบทเรียนการจัดการภัยพิบัติ

1. ต้องแยกกันออกเป็นชุด อย่างน้อย 3 ชุด คือ

1.1 ระดับปฏิบัติการ

1.2 ระดับบัญชาการ

1.3 ระดับอำนวยการ

2.ใช้เครื่องมือการวิเคราะห์หลังการปฏิบัติหรือที่เรียกกันว่า After Action Review (AAR) โดยมีคำถามสำคัญ คือ

2.1 เราวางแผนกันไว้อย่างไร อะไรคือจุดหมายของการปฏิบัติการ

2.2 เมื่อเราดำเนินโครงการพัฒนาไประยะหนึ่งแล้ว สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งใดเป็นไปตามที่วางไว้ / ทำไมเป็นเช่นนั้น

2.3 สิ่งใดไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ / ทำไมเป็นเช่นนั้น

2.4 เรามีปัญหาอะไรบ้าง

2.5 เราน่าจะสามารถทำสิ่งใดให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้บ้าง

2.6 ในการดำเนินงานครั้งต่อไป สิ่งใดที่เราจะปฏิบัติแตกต่างไปจากครั้งที่ผ่านมาบ้าง ฯลฯ

3. สรุปและสังเคราะห์เป็นเอกสารชุดความรู้ คู่มือ ตำรา ฯลฯ ที่บุคคลอื่นสามารถเรียนรู้และนำไปปรับใช้ให้การปฏิบัติงานมีคุณภาพยิ่งขึ้น

—————————————55555555555————————————–