- ในอนาคตเมื่อโอกาสสุดท้ายของมวลมนุษย์จะมีโอกาสจัดการกับความเสี่ยงภัยพิบัติ เพราะในอนาคตฉากสุดท้ายมวลมนุษย์จะไม่มีโอกาสร่วมกันจัดการกับความเสี่ยงภัยพิบัติอีกต่อไป
- มนุษยชาติจะมอบการจัดการภัยพิบัติแก่ผู้สร้าง AI แม้จะไม่ยินยอมพร้อมใจก็ตาม ซึ่งลำดับความสำคัญแรกผู้สร้าง AI ก็จะให้ความสำคัญกับความต่อเนื่องของ AI มากกว่าความปลอดภัยของมนุษยชาติที่ส่วนใหญ่จะกลายเป็นชนชั้นไร้ประโยชน์
ดังนั้น ณ ปัจจุบันนี้เราจงร่วมกันสร้างศักยภาพการปรับตัวรับมือกับภัยพิบัติ อันจะทำให้ไม่ลดโอกาสลูกหลานในการพัฒนาให้ไม่เป็นชนชั้นไร้ประโยชน์ แนวคิดที่กล่าวมา มาจากหนังสือที่เขียนโดยศาสตราจารย์ทางประวัติศาสตร์ โดย Yuval Noah Harari จำนวน 2 เล่ม ได้แก่
1. Sapiens (2015) traces the evolution of our species – from the rise of our most ancient ancestors to our current place in the modern, technological age.
2. Homo Deus (2017): A Brief History of Tomorrow examines what might happen to the world when old myths are coupled with new godlike technologies, such as artificial intelligence and genetic engineering.
สรุปประเด็นความคิดที่น่าสนใจจากการอ่านหนังสือทั้งสอง ดังนี้
1. ในศตวรรษที่ผ่านมา มนุษยชาติถูกผลักดันให้เข้าสู่ “ชนชั้นแรงงาน” โดยการปฏิวัติอุตสาหกรรม ในศตวรรษที่ 21 มนุษย์ถูกผลักเข้าสู่ “ชนชั้นไร้ประโยชน์” โดยการปฏิวัติ AI วิวัฒนาการด้าน AI จะทำให้งานที่มีอยู่จำนงนมากสูญหายไป นอกจากว่า จะมีงานใหม่ที่มนุษย์สามารถทำได้ดีกว่า AI เมื่อ AI ยึดฐานการผลิตทั้งหมด มนุษย์ชาติก็จะถูกจัดให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจพอเลี้ยงชีพ ที่เรียกว่า “Universal Basic Income” ประเทศที่ควบคุม AI และมีรายได้จากสินค้าที่ได้จาก AI ก็จะต้องส่งเงินไปอุดหนุนประเทศที่มีแต่แรงงานแต่ไร้งาน เพื่อซื้อสินค้าที่ตัวเองผลิต ดังนั้น การมีรัฐบาลในประเทศต่างๆ ก็จะค่อยๆ ไร้ความหมายไป สุดท้ายแล้วโลกก็จะก้าวไปสู่”โลกที่ไร้พรมแดน”
จากอดีตอำนาจอยู่กับพระเจ้า (ศาสนา) สู่ปัจจุบันที่อำนาจอยู่กับเสียงของคนส่วนใหญ่ (ประชาธิปไตย) หรือ กลุ่มคนที่มีอาวุธ (เผด็จการ) แต่ในอนาคต อำนาจจะอยู่กับชนชั้นสูงของโลก (World’s Super Elites) ที่ควบคุม Algoritm ของ AI และเป็นผู้ครอบครองข้อมูลขนาดใหญ่ การพัฒนาขีดความสามารถทางชีวภาพของมนุษย์ โดยอาศัยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ (AI) และเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) ซึ่งสุดท้ายอาจนำไปสู่ “รูปแบบของชีวิตอนินทรีย์ (Inorganic Lifeform). ความเหลื่อมล้ำของมนุษย์ในอนาคต จะขยายจาก “ความไม่เสมอภาคทางเศรษฐกิจ” ไปสู่ “ความไม่เสมอภาคทางชีวภาพ”
ในที่สุด มนุษย์ชาติจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนชั้น ได้แก่ กลุ่มชนชั้นสูง (Super Elite Class) ที่เป็นผู้มีอำนาจควบคุม AI และการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพของมนุษย์ชาติ (เพื่อให้ฉลาดขึ้น หรือ อายุยาวขึ้น) และ กลุ่มชนที่ไร้ประโยชน์ (Useless Class) ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและเชิงกำลังพลทางทหาร (กำลังพลจะไร้ความหมาย เพราะกองทัพในอนาคตจะใช้เทคโนโลยี AI แทน)
2.การทำงานของ AI จะใชั algorithm ระดับสูงไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่ยากเกินกว่าปัญญามนุษย์ที่จะเข้าใจ มนุษย์ชาติจึงกลายเป็นผู้ปฏิบัติ สุดท้ายแล้ว ในอนาคต AI จะกลายเป็นพระเจ้าองค์ใหม่ของมนุษย์ชาติ
3. ความเป็นไปได้ดังกล่าวข้างต้นหรือแม้จะไม่เป็นไปตามนั้น เราจำต้องรีบพัฒนาตนเองมี “ความสามารถพื้นฐานสากล” (Universal Basic Competence)” ซึ่งประกอบด้วยความรู้พื้นฐานในวิทยาการต่างๆ และทักษะสำหรับศตวรรษที่ 21 (Fundamental Knowledges and 21st Century Skillset) ที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อจะได้มีขีดความสามารถในการหลีกเลี่ยงในการตกสู่ “ชนชั้นที่ไร้ประโยชน์” ของโลกแห่งอนาคต
เราจะปฎิวัติระบบการศึกษาที่ใช้มาแต่ศตวรรษที่ 19-20 อย่างไร เพื่อเป็นต้นทุนให้ลูกหลานเข้าใจและสามารถเผชิญกับโลกที่แตกต่างจากปัจจุบันโดยสิ้นเชิง และใช้ชีวิตอย่างมีความหมายต่อไปได้
————————————————