ในช่วงต้นปี 2563 ประเทศไทยตกอยู่ในจารีตเวชกรรม ที่ถูกอธิบายและแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านตรรกะของขุนนางศักดินาที่ล้าหลัง ที่ประพฤติตนอย่างไร้สมรรถนะความสามารถ ขี่ควายจับไวรัส อุตสาหะ ขยันมาก แต่เปล่าประโยชน์ ปราบไวรัสด้วยระบอบนครรัฐ ให้ผู้ว่าฯประกาศปิดเมืองปิดถนนตั้งด่าน กีดกันคนจังหวัดอื่นเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ต่างคนต่างเอาตัวรอด คนจังหวัดใกล้เคียงเป็นเพื่อนเป็นญาติเคยไปมาหาสู่กันกลายเป็นผีห่า
การให้ความหมายและวิถีปฏิบัติในประเทศภายใต้การระบาดโควิด 19 ถึงแม้จะมีจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ แต่ไร้ความเป็นสากลร่วมกัน ทั้งนี้เพราะ
1.ได้ละเลยมิติของความหมายและเป้าประสงค์ของชีวิต
ภายใต้หลักปฏิบัติทางเวชกรรมที่เป็นมาตรฐานทางสาธารณสุข ขุนนางศักดินาที่ล้าหลังได้ใช้แนวคิดว่าทุกคนได้ติดเชื้อไวรัสแล้ว ซึ่งเป็นผู้ที่หมดศักยภาพในการช่วยเหลือตนเองในทุกๆ ด้าน ไม่สามารถที่จะมีศักยภาพภายในของตนเองในการหล่อหลอมตนเองฝ่าฝันการระบาดของไวรัสโควิด 19 ด้วยการมีระบบวิธีคิดในการจัดหมวดหมู่ทางวัฒนธรรมใดๆ ได้ ไม่สามารถจัดคู่ตรงข้ามนำไปสู้โครงสร้างความคิดที่สมเหตุสมผลใดๆ ได้
การบรรลุชัยชนะต่อไวรัสโควิด 19 ประชาชนต้องอยู่ท่ามกลางความแตกต่างหลากหลายในสังคม ไม่ได้ชนะด้วยการนอนอยู่ในบ้าน 2-3 เดือน แต่จะต้องเป็นการเริ่มต้นใหม่ของความสัมพันธ์ทางสังคม ที่เป็นการปฏิบัติที่เปลี่ยนแปลงตนเองเปลี่ยนแปลงสังคม
ให้โอกาสประชาชนบ้าง ไม่ใช่ต้องทำตามคำสั่งเพียงถ่ายเดียว ไม่ใช่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเพียงฝ่ายเดียวออกมามีปฎิบัติการควบคุมประชาชน
2.ได้ละเลยสำนึกต่อสังคมและเพื่อนมนุษย์
ภายใต้มาตรฐานทางเวชกรรมต้องสร้างทางเลือกเศรษฐกิจที่หลากหลาย เช่น สถานที่ที่มีประชาชนรวมกันใช้บริการทางเศรษฐกิจมากๆ ก็มีมาตรการกำจัดคนเข้าใช้บริการในช่วงเวลา เปลี่ยนวิธีการค้าขายด้วยวิธีการให้หน่วยงานภาครัฐเป็นศูนย์กลางหรือชี้ทางให้มีเครือข่ายออนไลน์ทางเศรษฐกิจภายในนครรัฐต่างๆ ไม่ใช่ทำให้วงจรเศรษฐกิจถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิงเพื่อบรรลุเป้าหมายทางเวชกรรมเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ไปแสดงพลังอำนาจของนครรัฐโดยการตั้งด่านวัดไข้ จดตัวเลขละเอียดยิบ แข่งกันระหว่างนครรัฐประกาศข้อบังคับที่นอกเหนือจากกรอบเวชกรรม
การดำเนินนโยบายลักษณะดังกล่าวเป็นไปในลักษณะไม่มีศรัทธาในความเป็น “เพื่อนทุกข์” ที่มนุษย์เผชิญชะตากรรมร่วมกัน (พวกเขาเหล่านั้นไม่มีในจิตวิญญาณแน่นอน แต่ด้วยที่ได้หลอกลวงว่าอาสามาบริหารกิจการบ้านเมืองก็จะต้องฝืนจิตวิญญาณตนเอง) เราจึงได้เห็นการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเป็นไปด้วยความล่าช้า ไม่แม่นยำ รวดเร็วแต่อย่างใด
—————–////////////———————–