ความปลอมเปลือกของการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ประเทศนี้ยังปกครองด้วยระบอบอำนาจนิยม รัฐธรรมนูญ (เผด็จการ) เป็นแค่กระดาษเปื้อนหมึกที่พร้อมจะทิ้งขยะและเขียนใหม่ตามแต่ผู้ถือ ไม่ต่างอะไรกับการจดใส่กระดาษชำระไว้ใช้เพียงชั่วครู่เท่านั้น เอาไว้ใช้ปกครองไม่ใช่เอาไว้ใช้อำนวยการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
อำนาจนิยมและรัฐธรรมนูญ ต้นธารแห่งความปลอมเปลือกของการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
พลวัตที่ขับเคลื่อนภายใต้อำนาจนิยมและรัฐธรรมนูญ(เผด็จการ) เป็นไปในลักษณะที่ปลอมเปลือกสำหรับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดังนี้
1.ใช้เทคนิคการบริหารจัดการเชิงเทคโนโลยีในการป้องกันและแก้ไขปัญหาจากสิ่งแวดล้อมแบบแยกเป็นส่วนๆ แต่เป็นความปลอมเปลือกเพราะละเลยไม่คุ้มครองต้นทุนทางธรรมชาติ และต้นทุนทางสังคม การที่ต้นทุนทางธรรมชาติและต้นทุนทางสังคมถูกย่ำยี กระทำชำเรา ส่งผลให้เด้งประชาชนออกจากความปลอดภัยโดยปริยาย เด้งแบบไม่กล้าหือ อยู่แบบสมยอมกับอำนาจนิยม ซึ่งการอยู่แบบเห็นแก่ตัว (ที่ไม่กล้าลุกขึ้นมาสู้) ได้สร้างภาระให้แก่ลูกหลานในอนาคต
ปัจจุบัน โลกไม่อาจรองรับสิ่งที่มนุษย์ได้เปลี่ยนแปลง/ได้ผลิต/ได้ใช้ โลกไม่อาจทดแทน ไม่อาจดูดซับ ไม่อาจอยู่ในสภาวะเดิมๆ อีกต่อไป ประชาชนคนชั้นล่างก็ปล่อยให้เขาสวาปามหยาดเหงื่อแรงงานของตน มอบให้ชนชั้นปกครองมาถลุงกับการบริหารจัดการเชิงเทคโนโลยีนานาประการ โดยมีสิ่งของอุปกรณ์ช่วยเหลือให้ซาบซึ้งในคราวเลือกตกยางออก เกือบเป็นเกือบตายในคราวประสบภัย
2.สถาปนาความเหลื่อมล้ำในสังคมเพื่อมากำหนดแนวทางการวิวัฒนาการของเผ่าพันธ์มนุษย์ ธรรมชาติได้พ่ายแพ้ต่อการวิวัฒนาการของมนุษย์แต่ฝ่ายเดียวไปแล้ว ไม่สามารถปรับตัวเองได้แล้ว ความหลากหลายสายพันธ์ได้หดหายลงไปเรื่อยๆ ยังเหลือแต่มนุษย์ด้วยกันเองที่พยายามแก่งแย่งกันวิวัฒนาการ วิวัฒนาการให้ความซับซ้อนของความเหลื่อมล้ำให้มากขึ้นมากขึ้น เป็นความปลอมเปลือกที่กำลังเดินไปอย่างเข้มข้นกว่าความปลอมเปลือกตามข้อ 1.
ปัจจุบันสถานการณ์ของการวิวัฒนาการได้มาถึงช่วงปลายๆ ของยุคต้นแล้ว ชนชั้นล่างไม่อาจพึ่งพาต้นทุนทางธรรมชาติได้อีกต่อไป ต้องพึ่งพาทุนนิยมอุตสาหกรรมในการดำเนินชีวิต ชนชั้นล่างยังไม่อาจรับรู้ถึงการสถาปนาความเหลื่อมล้ำที่ตนเองสัมผัสอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน (ปล่อยให้ชนชั้นปกครองกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา)