เมื่อรัฐราชการเด้งประชาชนออกจากการปลอดภัยพิบัติ

เมื่อประชาชนไม่ได้มีสำนึกในการปกครองแบบประชาธิปไตย ทำให้รีัฐราชการที่เป็นเพียงเครื่องมือของประชาชนในการขับเคลื่อนจุดมุ่งหมายในการพัฒนาชีวิตของตนเอง  ผงาดขึ้นมากุมบังเหียนทิศทางการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งในด้านภารกิจด้านภัยพิบัตินั้น ถือได้ว่าปัจจุบัน รัฐราชการได้เด้งประชาชนออกจากพื้นที่ทางสังคมด้านความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์  ประชาชนไม่สามารถที่จะกำหนดทิศทางการพัฒนาชีวิตของตนเองให้มีความปลอดภัยเองได้  ต้องขอร้องวิงวอนหรือคอยชื่นชมเวลาได้รับความเมตตาอนุเคราะห์สิ่งของเครื่องใช้ประทังชีวิต

วิธีการเด้งประชาชนออกจากพื้นที่ทางสังคมด้านความปลอดภัย มีวิธีการต่างๆ ดังนี้

1.สถาปนาประวัตฺิศาสตร์ที่เลอะเลือนไร้คุณค่าให้กับสังคม  สร้างเรื่องเล่าที่ส่งเสริมเฉพาะความชอบธรรมของรัฐราชการไม่ใส่ใจข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ในการสร้างความคิดใหม่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  ใส่ข้อมูลเดิมๆ (ที่ผ่านมาแล้วที่รัฐราชการได้ทุ่มเทปฏิบัติการอย่างยากลำบาก) ซ้ำๆ (รูปแบบข้อมูลเดิมๆ) ง่ายๆ (เป็นข้อมูลปฐมภูมิ)  การกระทำดังกล่าวเป็นการเด้งประชาชนออกจากพื้นที่ทางสังคมด้านความปลอดภัย กลายเป็นพลเมืองที่ขาดการรับรู้ ตกเป็นผู้ที่ถูกชักจูงได้ง่าย ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของรัฐราชการ

2. นำภาษีประชาชนมาใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ บิดเบือนเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ โดยมุ่งเน้นการใช้งบประมาณกับพ่อค้าผูกขาดสินค้าอุปกรณ์มาทำงานเอาหน้ากับประชาชนไปวันๆ  การกระทำดังกล่าวเป็นการเด้งประชาชนออกจากพื้นที่ทางสังคมด้านความปลอดภัย กลายเป็นพลเมืองที่เปราะบาง  ยากจนบนดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์

3.ใช้พื้นที่ทางกายภาพและอุปกรณ์/ทรัพย์สินของทางราชการไปเป็นพื้นที่แสวงหาผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ภายในรัฐราชการหรือไปรับใช้กลุ่มบุคคล /กลุ่มผลประโยชน์ การกระทำดังกล่าวเป็นการเด้งประชาชนออกจากพื้นที่ทางสังคมด้านความปลอดภัย ประชาชนถูกเบียดบังเอาทรัพย์สิน/อุปกรณ์ไปแสวงหาผลประโยชน์ โดยตนเองต้องถูกนำเอาภา่ษีมาเลี้ยงดูเจ้าหน้าที่ และเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาทรัพย์สิน/อุปกรณ์