วิพากษ์ลักษณะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
1. พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 มีเนื้อหาระบุถึงโครงสร้างองค์กร/หน่วยงานของรับ และขอบเขตอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตั้งแต่ระดับชาติ ราชการส่วนภูมิภาค จนลงมาถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเพิ่มส่วนพิเศษการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในกรุงเทพมหานคร http://web.krisdika.go.th/data/law/law2/%BB46/%BB46-20-2550-a0001.pdf
2.กฎหมายชั้น พ.ร.บ. เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นบทบัญญัติกฎหมายแม่บท เป็นไปในทำนองว่าพ่อจ้างคนมาทำหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในบ้านของตนเอง
3. ข้อดี
3.1 (ข้อดีของรัฐราชการ)ดูเป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจว่าจะปลอดภัย(นะจ๊ะ) อาณาจักรรัฐราชการใหญ่โตเข้มแข็ง (ฉิบหาย)
3.2 (ข้อดีของประชาชน) พอจะมีคนมาบีบแข้งบีบขาให้สบายแม้ในใจจะแช่งให้พินาศ(จะได้งายละวุ๊ย) มีคนล่อหลอกให้คลายความกังวล (แม้จะเป็นคำลวงทั้งสิ้น)
4. ข้อเสีย เป็นการบริหารงานของรัฐราชการเป็นใหญ่ (พิเศษยิ่ง โดยอ้างเร่งด่วน อ้างฉุกเฉิน จะสามารถละเว้นระเบียบเดิมๆ อีกหลายข้อที่สำคัญ)
วิพากษ์ลักษณะที่ควรจะเป็นของ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
1. ลักษณะเนื้อหาที่เป็นอยู่ ควรจะไปตราเป็นกฎหมายชั้นรอง คือ อนุบัญญัติกฎหมายลูก และถ้าจะดียิ่งขึ้นให้เป็นกฎกระทรวงจะมีประสิทธิภาพมากกว่า (กฎหมายที่ออกโดยสามัญชน) ทั้งนี้ จะต้องเปลี่ยนธรรมเนียมการออก พ.ร.บ.หรือตราไว้ใน พ.ร.บ.
2. ลักษณะเนื้อหาที่ควรจะบรรจุใน พ.ร.บ.ปภ.
2.1 ระบุวิธีดำเนินการที่รัฐจะจัดหาเพื่อให้สิทธิผู้ประสบความเสี่ยงภัยได้เรียนรู้ (ป้องกัน) และระบุวิธีดำเนินการที่รัฐจะช่วยเหลือผู้ประสบภัย บำบัดภยันตรายให้ประชาชน
2.2 ระบุการส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคเอกชน และประชาชนมีส่วนร่วมอย่างไร รวมทั้ง ช่องทางการมีส่วนร่วมกัยภาครัฐ (ปัจจุบัน เป็นเพียงวัสดุ เครื่องมืออุปกรณ์หนึ่งให้ภาครัฐ)
2.3 ระบุช่องทางการตรวจสอบจากภาคประชาชน (ร้องเรียนให้หน่วยงาน/องค์กรอื่นๆ ที่มีอยู่แล้ว เข้ามาตรวจสอบยาก ต้องมีหลักฐานที่ปรากฎชัด (ที่แดกกันอยู่ ข้อมูลอยู่ในวงใน))
2.4 ระบุหน้าที่และการแสดงออกในพื้นที่ของผู้เปราะบาง ผู้อยู่ในความเสี่ยง และผู้ประสบภัย รวมทั้งบทลงโทษ
2.5 ระบุขอบเขตสิทธิเสรีภาพ กรอบความคุ้มครองเสรีภาพ ความเป้นอืสระของพื้นที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
———-xxxxxx———–
3.