มนุษย์ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ และไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ย่อมมีการรับรู้อยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่ หนึ่งรับรู้ด้วยอายตนะ 6 (วิญญาณรู้) สองรับรู้ด้วยสัญญา สามรับรู้ด้วยปัญญา
พฤติกรรมการรับรู้ เป็นกระบวนการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมที่ต่อเนื่องจากการรู้สึกสัมผัสรับรู้ เป็นกระบวนการแปลความหมายของสิ่งเร้าที่ผ่านเข้ามาในกระบวนการรู้สึก เมื่อเครื่องรับหรืออวัยวะรับสัมผัส สัมผัสสิ่งเร้า เราจะเกิดความรู้สึกแล้วส่งความรู้สึกนั้นไปตีความ หรือแปลความหมายกลายเป็นปัญญา
1.รู้แบบสัญญารู้
รู้จากการจดจำได้ การศึกษานี้วัดจาก 2 ปัจจัย คือ รู้ความหมายสัญญาณและเครื่องหมายจราจรต่างๆ และรู้ระเบียบกฎหมายจราจรที่กำกับควบคุมพฤติกรรมเพื่อความปลอดภัย
2.รู้แบบวิญญาณรู้
รู้จากการรับอายตนะ การศึกษานี้ วัดปริมาณการรับรู้ 4 ปัจจับ ได้แก่ รับรู้ทางตา รับรู้ทางหู รับรู้ทางจมูก และรับรู้จากการนึกคิด
3.รู้แบบปัญญารู้
มีการแปลความหมายอย่างสมเหตุสมผลตามความเป็นจริง ทำให้พฤติกรรมการขับขี่คาดว่าจะไม่มีอุบัติเหตุ ไม่ก่อความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น
ผลการศึกษาการรับรู้บนท้องถนนของผู้ใช้รถใช้ถนนในเมืองไทย ที่สื่อมวลชนต่างประเทศและองค์กรนานาชาติได้ให้ฉายาถนนในเมืองไทยว่า “เป็นพื้นที่แห่งการฆ่า” การรับรู้ของผู้ที่ขับขี่อยู่ในพื้นที่การฆ่าแห่งนี้จะมีการรับรู้เป็นเช่นไร จากศึกษากลุ่มตัวอย่าง 450 คน มีผลการศึกษาเป็นไปตามตารางสถิติพรรณาปริมาณการรับรู้ ดังนี้
รายการ |
ค่าเฉลี่ย |
SD. |
ค่าความเบ้ |
ค่าความโด่ง |
Alpha if Item delete |
ตัดหน้ากระชั้นชิด |
4.5 |
1.1 |
0.04 |
0.04 |
0.51 |
ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร |
3.8 |
1.6 |
0.02 |
-0.05 |
0.58 |
ขับรถน่าหวาดสียว |
1.9 |
1.1 |
0.03 |
0.31 |
0.53 |
อื่นๆ |
0.03 |
1.3 |
0.04 |
0.3 |
0.40 |
ค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อถือได้ของมาตรวัด = 0.54 |
จากผลการศึกษาดังกล่าวข้างต้น พบว่า ส่วนใหญ่ผู้ใช้รถใช้ถนนรับรู้แบบวิญญาณรู้เท่านั้น และรับรู้ในปริมาณที่น้อยด้วยที่ในแต่ละวันที่ได้ประสบ การรับรู้แบบปัญญารู้ และแบบสัญญารู้พบได้น้อยนิดเพียงร้อย 0.03 ซึ่งเป็นการรับรู้ที่จะเกิดท้องถนนแห่งความสุขท้องถนนแห่งรอยยิ้ม ผู้ใช้รถใช้ถนนยังไม่ซึมซับการรับรู้เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมฆาตกรบนท้องถนน
———————————————-666666666666———————————————–